นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้ตระเวนตรวจสอบการหาเสียงและการปิดป้ายหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ พบว่า มีผู้สมัครเป็นจำนวนมากที่หาเสียงและปิดป้ายหาเสียงไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2563 และประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เรื่อง การกำหนดสถานที่ปิดประกาศและติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร
สิ่งที่พบเห็นคือ การปิดประกาศหาเสียงเลือกตั้ง ไม่คำนึงถึงความเหมาะสม ไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างความสกปรกทางสายตา ป้ายหัก ชำรุดไม่มีความปลอดภัย ไม่มีความมั่นคงแข็งแรง มีทัศนียภาพและทัศนวิสัยที่ไม่ดีก่อให้เกิดอันตรายแก่ประชาชนหรือต่อยานพาหนะ กีดขวางทางสัญจรและการจราจร และบางแผ่นป้ายไม่มีการระบุชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ของผู้ว่าจ้าง ผู้ผลิต จำนวน และวันเดือนปี ที่ผลิตไว้บริเวณที่เห็นได้ชัดเจน บางป้ายตัวเล็กมาอ่านไม่ออกหรือเบลอ
นอกจากนั้น ปิดป้ายหาเสียงในพื้นที่ที่ห้ามปิดประกาศมากมาย อาทิ บนผิวการจราจร บนเกาะกลางถนน สะพานลอยเดินข้าม รวมทั้งส่วนประกอบของสะพาน รั้วและแผงเหล็กริมถนน ป้ายจราจรและสัญญาณไฟจราจร บริเวณต้นไม้และเสาไฟฟ้าบริเวณเกาะกลางถนน ติดตั้งใกล้ชิดศาลาที่พักผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบภายในระยะ 10 เมตร ติดตั้งบนสวนหย่อม ในสวนสาธรณะ สำหรับการติดประกาศในซอยมีระยะห่างจากปากซอยน้อยกว่า 10 เมตร และมีผู้สมัครเป็นจำนวนมากปิดประกาศ หรือติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งนอกพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ตนสมัคร ข้ามเขตไปปิดประกาศในเขตจังหวัดสมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.ปทุมธานี โดยเฉพาะผู้สมัครที่เป็นตัวเต็งอยู่ในขณะนี้ล้วนทำผิดกฎหมายเลือกตั้งข้างต้นกันแทบทั้งสิ้น
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะรวบรวมพยานหลักฐานไปร้องให้ กกต. และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) ในวันที่ 12 พ.ค.65 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B เพื่อเร่งดำเนินการสั่งให้ผู้สมัครแก้ไขภายใน 3 วัน หากล่าช้าเพิกเฉยให้ถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้ง กกต.ต้องสั่งให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ หรือไม่ประกาศผลให้ผู้ที่ฝ่าฝืนเป็นผู้ชนะ หาก กกต.ไม่ดำเนินการ สมาคมฯจะนำความไปฟ้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่ง กกต.ต่อไป