นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการทางภาษีและค่าธรรมเนียม สำหรับกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีข้อกำหนดในการซื้อทรัพย์สินคืน (มาตรการฯ REIT buy-back) เพื่อส่งเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ ลดภาระให้แก่ภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบด้วย
มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่ บริษัท หรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลสำหรับการขายทรัพย์สินให้แก่ทรัสตีของกองทรัสต์ที่มีข้อกำหนดขายคืน (REIT buy-back) ในระยะเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันพระราชกฤษฎีกามีผลใช้บังคับ โดยผู้รับโอนสิทธิ์ (ทรัสตี) ของกอง REIT buy-back เมื่อขายทรัพย์สินคืนให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ภายใน 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อทรัพย์สินจากเจ้าของเดิม เฉพาะกรณีการขายทรัพย์สินคืน ตามข้อกำหนดของสำนักงาน ก.ล.ต.
มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิมร้อยละ 2 เหลือร้อยละ 0.01 สำหรับเจ้าของเดิมโอนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ทรัสตีของกอง REIT buy-back ภายใน 2 ปี นับตั้งแต่วันประกาศกระทรวงมหาดไทยใช้บังคับ และทรัสตีของกอง REIT buy-back โอนอสังหาริมทรัพย์ให้แก่เจ้าของเดิมภายใน 5 ปี เพื่อลดผลกระทบจากโควิด-19 เศรษฐกิจชะลอตัว การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่อง เป็นเครื่องมือระดมทุนผ่านการขายทรัพย์สินให้แก่กอง REIT buy-back และยังรักษาความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินดังกล่าวไว้ได้ คาดการณ์ว่ากอง REIT buy-back จะมีการลงทุนในทรัพย์สินประมาณ 30,000 ล้านบาท