นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรงเรียนในหลายๆ พื้นที่จะทำการเปิดการเรียนการสอนเป็นแบบ On-site ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ เด็กๆ ต้องเปลี่ยนการดำเนินชีวิตจากการเรียนออนไลน์กับผู้ปกครองที่บ้านที่มีความยืดหยุ่นเป็นเวลานาน ในการเปิดภาคเรียนนี้เด็กๆ ต้องตื่นเช้าเพื่อไปโรงเรียน เข้าระบบการเรียนการสอนที่เป็นเวลามากขึ้น อีกทั้งยังมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้ปกครองหลายท่านอาจจะกังวลในเรื่องของความปลอดภัยเมื่อลูกต้องไปโรงเรียน จึงควรเตรียมความพร้อมให้ลูกก่อนออกจากบ้าน โดยสวมหน้ากากอนามัย แนะให้ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ เตรียมอุปกรณ์การเรียนและของใช้ส่วนตัวเพื่อจะได้ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
ขณะที่นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเด็กๆ ทั้งสุขภาพกายและสังคม พ่อแม่จึงต้องเตรียมความพร้อมและให้ลูกไปโรงเรียนอย่างตระหนักแต่ไม่ตระหนก โดยสวมหน้ากากอนามัยให้ถูกต้องก่อนออกจากบ้าน เว้นระยะห่างจากเพื่อน ซึ่งธรรมชาติของเด็กเวลาเล่นกันอาจมีการสัมผัสใกล้ชิดกัน และหากลูกหลานมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก ควรหยุดเรียนทันที เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อโรคเพิ่มขึ้น และลดการแพร่กระจายเชื้อ
ขณะที่ทางโรงเรียนต้องเคร่งครัดมาตรการสาธารณสุขเพื่อลดความเสี่ยงโควิด-19 ในโรงเรียน เน้นย้ำให้นักเรียนสวมหน้ากากอนามัย และการรักษาระยะห่าง คัดกรองวัดไข้ก่อนเข้าโรงเรียน ลดการแออัด และความสะอาดในโรงเรียน การล้างมือหลังสัมผัสปุ่มสัมผัส ลูกบิดประตู และรับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ และสำรวจตรวจสอบตนเอง จะช่วยให้เด็กไปโรงเรียนอย่างมีความสุข และปลอดภัยห่างไกลโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานไปรับวัคซีนโควิด-19 ก่อนไปโรงเรียน ตามคำแนะนำของแพทย์