พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กองบังคับการปราบปราม กองบังคับการตำรวจน้ำ และหน่วยงานอื่นๆ ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมเปิดยุทธการ "เรือมนุษย์" กระจายกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ จ.นนทบุรี จ.จันทบุรี เพื่อกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์บังคับใช้แรงงานบนเรือประมง
สืบเนื่องจากเดือนกันยายนปี 2565 ประเทศมาเลเซียได้ส่งกลับแรงงานไทย จำนวน 44 คน แบ่งเป็นแรงงานประมง 40 คน และแรงงานอื่นอีก 4 คน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบมีผู้เสียหายเข้าข่ายการค้ามนุษย์ 3 คน ตำรวจจึงขยายผลจนกระทั่งพบกลุ่มขบวนการค้ามนุษย์ โดยวิธีการจะเข้าไปตีสนิทกับผู้เสียหาย ชักชวนให้ไปทำงานบนเรือประมง โดยบอกว่าได้ค่าตอบแทนเป็นรายเดือนสูง เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงพาไปพักอยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี เพื่อรอเวลา จากนั้นจะมีกลุ่มนายหน้าที่ได้ค่าตอบแทนจากเจ้าของเรือรายละ 50,000 บาท ซึ่งเจ้าของเรือประมงได้ให้ผู้เสียหายลงเรือประมงในลักษณะการแอบลักลอบเดินทางออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย เพื่อไปทำงานในน่านน้ำประเทศมาเลเซีย
ผลของปฏิบัติการเรือมนุษย์ในครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์บังคับใช้แรงงานบนเรือประมงได้จำนวน 7 ราย โดยแบ่ง เป็นกลุ่มนายหน้า และกลุ่มบ้านพักเจ้าของเรือประมง
จากการตรวจสอบยังพบว่า ไต๋ก๋งเรือ มีประวัติถูกจับในคดีค้ามนุษย์มาแล้ว แต่สั่งไม่ฟ้อง ส่วนนายหน้าก็มีประวัติถูกจับมาแล้วเช่นกันเมื่อปี 2561 และเพิ่งพ้นโทษออกมา