น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปี 2565 วงเงิน 1,925 ล้านบาท เพื่อลดความเสี่ยงให้เกษตรกร เช่นเดียวกับปี 2564 โดยรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยพื้นฐาน ร้อยละ 60 และ ธ.ก.ส. อุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย ร้อยละ 40 มีหลักเกณฑ์ ดังนี้ กลุ่มลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. ค่าเบี้ยประกันภัย 99 บาทต่อไร่ พื้นที่เป้าหมาย 28 ล้านไร่ โดยรัฐอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้ 59.40 บาทต่อไร่ (ร้อยละ 60) และ ธ.ก.ส. อุดหนุนค่าเบี้ยประกันให้ลูกค้า 39.60 บาทต่อไร่ (ร้อยละ 40)
สำหรับกลุ่มลูกค้าเกษตรกรทั่วไป ค่าเบี้ยประกันภัยแยกเป็น พื้นที่ความเสี่ยงต่ำ 99 บาทต่อไร่ พื้นที่ความเสี่ยงปานกลาง 199 บาทต่อไร่ พื้นที่ความเสี่ยงสูง 218 บาทต่อไร่ รวมพื้นที่เป้าหมายไม่เกิน 5 แสนไร่ โดยรัฐอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้ 59.40 บาทต่อไร่เท่ากันทุกพื้นที่ความเสี่ยง สำหรับค่าเบี้ยประกันภัยแบบสมัครใจ พื้นที่เป้าหมาย 5 แสนไร่ เกษตรกรต้องเป็นผู้ชำระเอง แบ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงต่ำ 27 บาทต่อไร่ พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 60 บาทต่อไร่ และพื้นที่เสี่ยงสูง 110 บาทต่อไร่
สำหรับวงเงินความคุ้มครอง ครอบคลุมภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาดและภัยพิบัติธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ ช้างป่า โดยประกันภัยพื้นฐาน (Tier1) ให้วงเงินคุ้มครองภัยธรรมชาติ 1,190 บาทต่อไร่ และภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด 595 บาทต่อไร่ ส่วนสมัครใจ ( Tier2) วงเงินคุ้มครองภัยธรรมชาติจำนวน 240 บาทต่อไร่ และภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาดจำนวน 120 บาทต่อไร่
น.ส.รัชดา กล่าวด้วยว่า ผลการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2564 มีเกษตรกรผู้เอาประกันภัยพื้นฐาน 3.66 ล้านราย พื้นที่ทำประกันภัย 43.39 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 96.41 ของจำนวนพื้นที่เป้าหมาย
ทั้งนี้ รัฐบาลขอประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรร่วมทำประกันภัยข้าวนาปี เพื่อเป็นการลดความสูญเสียหากเกิดความเสียหายจากภัยธรรมชาติและศัตรูพืชหรือโรคระบาด สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถซื้อกรมธรรม์ได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา