xs
xsm
sm
md
lg

โฆษก รบ.เตือน ปชช.ระวังแบงก์ปลอม เผยนายกฯ สั่งใช้ กม.จัดการเด็ดขาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีมีการนำธนบัตรชนิด 1000 บาท ปลอมมาใช้ซื้อสินค้าขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากเตือนประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าให้ระมัดระวัง ขอให้ตรวจสอบธนบัตรที่ได้รับ โดยเฉพาะธนบัตรที่มีมูลค่าสูง ขอให้สละเวลาตรวจสอบให้แน่ใจก่อน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพแก๊งปลอมธนบัตร พร้อมขอความร่วมมือประชาชน หากพบธนบัตรปลอม ห้ามนำธนบัตรปลอมออกไปใช้อีก เพราะมีความผิดตามกฎหมาย ให้เขียนคำว่า "ปลอม" ลงบนธนบัตร เพื่อแยกออกจากธนบัตรฉบับจริง แล้วนำไปส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ธนาคารพาณิชย์เพื่อนำส่งเข้าระบบ แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ โดยให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ให้ได้มากที่สุด หรือโทรศัพท์แจ้งธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 0 2356 7987

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิธีสังเกตธนบัตรปลอมมีหลายจุดสังเกต ได้แก่ การสัมผัส กระดาษธนบัตรเป็นกระดาษที่ทำจากกระดาษที่มีใยฝ้ายเป็นส่วนประกอบหลัก จึงมีความแกร่ง ทนทาน และไม่ยุ่ยง่าย เมื่อจับสัมผัสจะให้ความรู้สึกแตกต่างจากกระดาษทั่วไป ยกส่อง ส่องลายน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระดาษ จากขั้นตอนการผลิตกระดาษโดยใช้กรรมวิธีพิเศษที่ทำให้เนื้อกระดาษมีความหนาบางไม่เท่ากัน จนเกิดเป็นภาพตามต้องการ ลายน้ำในธนบัตรไทย เป็นพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อยกส่องกับแสงสว่าง จะเห็นชัดเจนทั้งด้านหน้าและด้านหลังของธนบัตร นอกจากนี้ ลายน้ำยังมีตัวเลขชนิดราคารูปลายไทยโปร่งแสงเป็นพิเศษ และการพลิกเอียงตัวเลขแฝง ตัวเลขแจ้งชนิดราคาซ่อนอยู่ในลายประดิษฐ์ มองเห็นได้เมื่อเอียงธนบัตรเข้าหาแสงสว่าง ภายในมีตัวเลขแจ้งชนิดราคา เมื่อพลิกธนบัตรขึ้น-ลง หรือพลิกซ้าย-ขวา ชนิดราคา 500 บาท และ 1000 บาท จะเห็นการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนสลับสี ส่วนชนิดราคา 100 บาท จะเห็นเป็นประกาย

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้บังคับใช้กฎหมายจัดการกลุ่มมิจฉาชีพที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคมและประชาชนอย่างเคร่งครัด โดยโทษฐานปลอมหรือแปลงธนบัตร คือ จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี และปรับตั้งแต่ 200,000-400,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 240 ส่วนคนที่นำธนบัตรปลอมไปใช้ทั้งที่รู้ว่าเป็นของปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-15 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-300,000 บาท ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 244"