นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2565 เวลา 15.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 32 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นการพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับเข้าใหม่จากภายนอก จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 462 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 83.5% กลุ่มสีเหลือง 15.6% และกลุ่มสีแดง 0.9% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 91,780 ราย หรือ 96.7% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 94,932 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 205 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่ม ในขณะที่เรือนจำ/ทัณฑสถานสามารถควบคุมการแพร่ระบาด และกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติทั้งหมดแล้ว ในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้น ปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 245,135 ราย หรือคิดเป็น 92.13% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,076 ราย
ขณะที่ในที่ประชุม ศบค.ยธ วันนี้ โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน กล่าวถึงสถานการณ์ในภาพรวมที่ค่อนข้างน่าพอใจ เนื่องจากผู้ป่วยติดเชื้อของกรมราชทัณฑ์อยู่ในเกณฑ์ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงมีการสูญเสียน้อยลง โดยได้กำชับเรื่องฉีดวัคซีนให้ครบโดสทุกราย ตลอดจนการตรวจและป้องกันโรคที่ยังคงต้องเข้มงวดต่อไป นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำการดำเนินการด้านคุณภาพอาหารผู้ต้องขังให้ได้มาตรฐานอีกด้วย
ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข