เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ดูแลด้านกฎหมายและคดี เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทำอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศกับหยื่อหญิงสาวหลายราย
พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ว่า ทราบว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะคดีที่ สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอเเล้ว วันนี้ได้ขอศาลออกหมายจับในข้อหาพรากผู้เยาว์ เเละ กระทำอนาจาร เเต่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเเทน โดยศาลได้ให้ความเห็นว่าผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวน และมีคดีในชั้นศาลแล้ว 4 คดี และได้ประกันตัวในชั้นศาล ประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล้าวหาที่ สน.ห้วยขวาง ในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ เวลา 09.00 น.
ส่วนประเด็นการถอนแจ้งความผู้เสียหายทั้งหมด 15 ราย มี 12 คดี ยังไม่มีรายใดถอนแจ้งความ เเละขณะนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเเละสอบปากคำใกล้เสร็จสิ้นเเล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถเเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้ ส่วนคดีที่จังหวัดเชียงใหม่ เเละเพชรบุรี ก็ให้เเต่ละพื้นที่รับผิดชอบ
ทั้งนี้ ตำรวจไม่มีความกังวลใจในสำนวนคดีเเละพยานหลักฐานต่างๆ เเม้ว่าจะเกิดเหตุกับผู้เสียหายเเต่ละรายมานานเเล้ว เเต่หลักฐานอื่นๆ ก็สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นได้สอบปากคำเสร็จไปเเล้ว 3 คดี ส่วนคดีอื่นๆ หากจำเป็นต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำ ยืนยันว่า ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เเม้เเต่ตัวผู้ต้องหาเองก็สามารถเเสวงหาพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนได้
อย่างไรก็ตาม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงสาเหตุที่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ แต่กลับให้ออกหมายเรียกแทน เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเเล้ว 4 คดี เเละมีเงื่อนไขในการประกันตัว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับซ้ำในคดีที่มีลักษณะเดียวกัน ส่วนข้อกังวลว่าผู้ต้องหาว่าผู้ต้องหาจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเเละผู้เสียหายนั้น ในเงื่อนไขการประกันตัวระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มิเช่นนั้นจะถูกถอนประกันตัวทันที ซึ่งขณะนี้ตั้งเเต่ดำเนินคดีไป ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาเเจ้งว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน