xs
xsm
sm
md
lg

กรมราชทัณฑ์เผยวันนี้ไม่พบโควิดระบาดใหม่ในเรือนจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 24 เมษายน 2565 เวลา 15.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อยืนยันรายใหม่ 19 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นการพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับเข้าใหม่จากภายนอก จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 639 ราย เป็นกลุ่มสีเขียว 83.7% กลุ่มสีเหลือง 16.1% และกลุ่มสีแดง 0.2% มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 91,338 ราย หรือ 96.5% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 94,659 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 203 ราย หรือ 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด

นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่เพิ่มในขณะที่เรือนจำ/ทัณฑสถานสามารถควบคุมการแพร่ระบาด และกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติ โดยปัจจุบัน เรือนจำแม่ฮ่องสอนที่ยังคงพบการแพร่ระบาดนั้น สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว และจะพ้นจากการระบาดในวันที่ 26 เมษายนนี้ และในส่วนของการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังนั้นปัจจุบันมีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 243,632 ราย หรือคิดเป็น 91.36% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 266,673 ราย

ขณะที่วันนี้ ในที่ประชุม ศบค.รท นายอายุตม์ ได้กล่าวกำชับถึงมาตรการการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน โดยเฉพาะการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 และ 4 ให้แก่ผู้ต้องขังจนครบทุกคน เพื่อป้องกันการสูญเสีย รวมไปถึงยังต้องประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายทันทีที่พบผู้ติดเชื้อ เพื่อส่งต่อการรักษาได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งการดูแลรักษาความสะอาดของห้องขังและห้องกักโรค ต้องทำความสะอาดสิ่งของที่นำเข้ามาภายในเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ต้องตรวจ ATK และ RT-PCR ตามคำแนะนำของแพทย์อีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ใช้ระบบการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเป็นประจำทุกวันจากยอดผู้ต้องขังติดเชื้อที่ได้รับการตรวจในรูปแบบ RT-PCR เป็นหลัก ที่ถือเป็นการยืนยันผลที่ชัดเจนเช่นเดียวกับแนวทางของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ของประเทศ ซึ่งยังไม่ได้รวมถึงการพบผู้ติดเชื้อเข้าข่าย/ATK

อย่างไรก็ดี กรมราชทัณฑ์ได้เพิ่มข้อมูลส่วนนี้แล้วในภาพอินโฟกราฟิกประจำวัน โดยผู้ต้องขังที่ป่วยติดเชื้อทุกรายได้รับการดูแลรักษาตามมาตรฐานตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การกำกับดูแลของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลแม่ข่าย กระทรวงสาธารณสุข