"สกลธี"หาเสียงย่านหลักสี่ ประกาศจะเป็นผู้ว่าฯ คนแรกที่หาเงินเข้า กทม.

วันนี้ (23 เม.ย.) นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 3 ลงพื้นที่ชุมชนย่านหลักสี่ โดยขึ้นรถแนะนำตัวไปตามชุมชนต่างๆ

นายสกลธี กล่าวว่า เขตหลักสี่ถือเป็นพื้นที่ที่มีความผูกพันมาก เพราะเป็นเขตที่เคยเป็น ส.ส. และได้รับเลือกตั้งเมื่อปี 2550 ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ก็จะได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น สำหรับจุดนี้เป็นพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่อาศัยมาก เพราะมีทั้งที่เป็นหมู่บ้านเอกชนและเคหะชุมชน และยังมีระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งรถไฟฟ้าถึง 2 สาย คือ สายสีแดง และสีชมพู มองว่าสิ่งสำคัญคือการขนส่งคนจากบ้าน หรือชุมชน ออกไปสู่ระบบขนส่ง ซึ่งตรงกับนโยบายล้อ-ราง-เรือ โดยจะพยายามทำให้ประชาชนสามารถเข้าสู่ระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก คือการนำรถฟีดเดอร์ที่เป็นรถเมล์ไฟฟ้ามาช่วยขนส่งคนสู่ระบบรถสาธารณะหลัก เพื่อลดปัญหาการคับคั่งของรถยนต์ส่วนตัวลงได้

อีกเรื่องหนึ่งคือ ตรงนี้มีหมู่บ้านเมืองทองซึ่งเป็นหมู่บ้านใหญ่ของเอกชนที่เขาไม่ได้ยกพื้นที่ให้เป็นที่สาธารณะ งบ กทม. ก็จะมาลงไม่ได้ เวลาที่จะมาลอกท่อก็ทำไม่ได้ ซึ่งตนคิดว่าจะต้องทลายข้อจำกัดนั้น เพราะถนนเส้นไหนที่เป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้กันเยอะ ควรจะให้เงิน กทม.ลงมาใช้ตรงนี้ได้

ขณะที่ประเด็นเรื่องการกระจายงบลงในเขตต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่ให้ความสำคัญ และคิดว่าหากเป็นผู้ว่าฯ กทม. สิ่งแรกที่ตนจะทำก็คือการนำงบ กทม. ต่างๆ มาพิจารณาดูว่าโครงการไหนที่ยังไม่จำเป็น สามารถระงับได้ก็จะระงับไว้ก่อน และนำงบประมาณมาใช้ในส่วนโครงการที่จำเป็น และกระจายไปยังจุดต่างๆ ที่ยังขาด เพราะแต่ละเขตก็มีลิสต์รายการอยู่แล้วว่าประชาชนต้องการอะไรบ้างในแต่ละพื้นที่ โดยคิดว่าหลายปีที่ผ่านมางบประมาณของเขตถูกละเลยมาพอสมควร ดังนั้น ต่อไปควรมีการกระจายงบจากส่วนกลางลงไปให้มากที่สุด

นายสกลธี กล่าวด้วยว่า ตนพูดมาตลอดว่าจะเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนแรกที่หาเงินเข้า กทม. ก็จะเข้าไปดูเรื่องกำจัดขยะ ซึ่งในแต่ละปีใช้เงินกว่า 5 พันล้านบาท ในการฝังกลบ การเช่าซื้อรถ หรือการซื้อรถ ถ้าในส่วนนั้นให้เอกชนทำได้ ในเทอมหนึ่งของตนจะสามารถประหยัดเงินไปได้ถึงสองหมื่นล้าน ที่จะเอาไปทำอย่างอื่นได้อีกมาก