เมื่อเวลา 10.00 น. พรรคชาติพัฒนา (ชพน.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 โดยที่ประชุมฯ มีมติเลือก นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพรรคชาติพัฒนา ซึ่งตำแหน่งประธานพรรค จะเป็นประธานของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านเทคโนโลยี เพื่อจัดทำนโยบายและข้อเสนอแนะในการบริหารงานของพรรคชาติพัฒนาให้ทันกับการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองและสร้างความอยู่ดี กินดี ให้กับพี่น้องประชาชน
นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้ามีความสำคัญมากกับอนาคตของประเทศ ต่างกับทุกครั้ง เพราะครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่อยู่บนมหาวิกฤตและความหวังของประชาชนว่าใครจะมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และต่อเนื่องมาตลอดจนถึงวันนี้ เป็นวิกฤตจริงๆ ทั้งเรื่องโควิด วิกฤตเศรษฐกิจ และสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงที่กระทบต่อทุกคน
ทั้งนี้ นายสุวัจน์ ได้เสนอทางออกประเทศหลังการเลือกตั้งที่อยากเสนอให้ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ รวม 7 เรื่อง คือ ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องและดูแลผลกระทบจากโควิด (Post Covid) ใช้เทคโนโลยีมาสร้างความทันสมัยให้กับประเทศ เศรษฐกิจต้องเติบโตบนจุดแข็ง เป็นแพลตฟอร์มใหม่ของเศรษฐกิจไทย ท้องถิ่นต้องเข้มแข็ง สร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ผู้สูงอายุคือกำลังของประเทศ เตรียมพร้อมรองรับปัญหาโลกร้อน (Global Climate Change) และการเมืองทางออกสุดท้ายของประเทศ ต้องมีเสถียรภาพ คุณภาพ เสียสละ ลดความขัดแย้ง
นายสุวัจน์ ย้ำว่า พรรคชาติพัฒนามีความตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยกันทำงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้พี่น้องประชาชน จากประสบการณ์และบุคลากรของพรรคที่เคยทำมาแล้ว โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ประสบความสำเร็จในช่วงที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีต ส.ส.โคราชเป็นนายกรัฐมนต "เศรษฐกิจยุคทอง แปรสนามรบเป็นสนามการค้า โคราชประตูสู่อีสาน อีสานประตูสู่อินโดจีน" ซึ่งพรรคฯ พร้อมที่จะทำงานและเชื่อมั่นว่าทำได้ พรรคฯ เคยทำมาแล้ว และจะทำต่อไปเพื่อพี่น้องประชาชนชาวไทย ขอให้ไว้วางใจพรรคชาติพัฒนา
นายสุวัจน์ กล่าวด้วยว่า พรรคชาติพัฒนา เกิดที่โคราช จึงมีคำว่า "โคราชชาติพัฒนา" มีคำว่า "คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน" "เกิดที่โคราชก็ต้องตายที่โคราช" พรรคชาติพัฒนาขอยึดเอาโคราชไว้เป็นเรือนตาย ขอ Come back อีกครั้งเพื่อรับใช้ชาวโคราช