xs
xsm
sm
md
lg

สธ.รับมอบ"ยาแพกซ์โลวิด"5 หมื่นคอร์ส รับมือสถานการณ์โควิดหลังสงกรานต์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีส่งมอบยา "แพกซ์โลวิด" จำนวน 1.5 ล้านเม็ด หรือ 5 หมื่นคอร์สการรักษา ระหว่างกรมการแพทย์ และบริษัท ไฟเซอร์ฯ ตามสัญญาการจัดซื้อ พร้อมให้องค์การเภสัชกรรม จัดเก็บและกระจายยา เพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีภาวะเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง ช่วยลดการนอนโรงพยาบาลและการเสียชีวิต รองรับสถานการณ์ช่วงหลังสงกรานต์ที่อาจมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยมี นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ และ นางสาวเด็บบราห์ ไซเฟิร์ท กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม และคณะผู้บริหาร เข้าร่วม

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเข้าถึงยารักษาโควิด-19 ที่มีประสิทธิผล โดยมีข้อมูลทางวิชาการหรือผลการศึกษาวิจัยที่มีคุณภาพเพียงพอในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบาย เพื่อพิจารณาเลือกและจัดหายาที่เหมาะสมในการนำมาใช้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ยาต้านไวรัส รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้แก่ ยาฟาวิพิราเวียร์ ยาเรมเดซิเวียร์ ยาโมลนูพิราเวียร์ และยาตัวใหม่ที่กำลังนำมาใช้ คือ ยาแพกซ์โลวิด ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ ดำเนินการจัดซื้อจัดหาจำนวน 50,000 คอร์สการรักษา โดยลงนามจัดซื้อกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา และมีการส่งมอบยาในวันนี้

นายอนุทิน กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล ขอขอบคุณทุกภาคส่วนโดยเฉพาะกรมการแพทย์ ที่เป็นผู้ดำเนินการจัดหายาแพกซ์โลวิด และองค์การเภสัชกรรม ที่จะเป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บและกระจายยา รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจดูแลผู้ป่วยโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่นายแพทย์เกียรติภูมิกล่าวว่า ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยในผู้ป่วย 1,379 คน พบว่า ยาแพกซ์โลวิดช่วยลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลงได้ร้อยละ 88 เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ โดยกลุ่มที่ให้ยาแพกซ์โลวิด มีการนอนโรงพยาบาล ร้อยละ 0.77 และไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนกลุ่มที่ได้รับยาหลอก มีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล ร้อยละ 6.31 และมีผู้เสียชีวิต 13 คน ถือว่ามีประสิทธิผลสูง ซึ่งยาแพกซ์โลวิด 5,000 คอร์สที่ส่งมอบครั้งนี้ จะนำไปใช้รักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง และมีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรง เช่น คนอายุมากกว่า 60 ปี มีภาวะอ้วน เป็นเบาหวาน เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นโรคไตเรื้อรัง ภูมิต้านทานร่างกายต่ำ เป็นต้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตหรือการรักษาตัวในโรงพยาบาล

ทางด้านนายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ได้เริ่มเจรจาจัดซื้อยาแพกซ์โลวิดกับบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ตามกระบวนการขั้นตอนต่างๆ จนมีการตรวจรับและส่งมอบยาในวันนี้ เพื่อให้สามารถนำยาดังกล่าวไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ได้ทันในช่วงเดือนเมษายน เป็นการเตรียมความพร้อมรับมือการระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากเทศกาลสงกรานต์ที่คาดว่าอาจจะมีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยมีองค์การเภสัชกรรม ทำหน้าที่จัดเก็บและกระจายยาไปยังสถานพยาบาลต่างๆ

ทั้งนี้ ยาแพกซ์โลวิดเป็นยาต้านไวรัสชนิดเม็ด ออกฤทธิ์โดยยับยั้งเอนไซม์โปรตีเอส (protease) ทำให้เชื้อโควิดไม่สามารถสร้างโปรตีนที่จำเป็นต้องใช้ในการเพิ่มจำนวนได้ ยานี้ 1 คอร์ส ประกอบด้วย ยา Nirmatrelvir (150 มก.) จำนวน 2 เม็ด และยา Ritonavir (100 มก.) จำนวน 1 เม็ด รับประทานวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 5 วัน (ใช้ Nimatrelvir 20 เม็ด และ Ritonavir 10 เม็ด/คน กลุ่มที่ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง คือ สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม ผู้ที่การทำงานของตับหรือไตบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ใช้ยาบางชนิดที่อาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างกัน การพิจารณาให้ยาจึงขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษา