นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันครบรอบ 76 ปี ของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ นับจากวันนี้เป็นต้นไปจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 77 ประชาธิปัตย์ไม่ใช่เป็นแค่พรรคการเมืองที่มีอายุยืนยาวที่สุดของประเทศเท่านั้น แต่ยังถือเป็นสถาบันการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดของประเทศที่อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมาต่อเนื่องยาวนาน และจะอยู่ต่อไปตราบชั่วฟ้าดินสลาย เพราะประชาธิปปัตย์ประกอบด้วยคนทุกรุ่น ไม่ใช่พรรคการเมืองของคนร่นใดรุ่นหนึ่ง ผู้อาวุโสของพรรคก็จะทำหน้าที่เป็นหางเสือ คนรุ่นปัจจุบันก็จะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนพรรคไปสู่ทิศทางและเป้าหมาย และคนรุ่นใหม่ก็จะเป็นคนที่มาสืบทอดอุดมการณ์พรรคต่อไปในวันข้าหน้า พรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นพรรคการเมืองของคนทุกรุ่น มีทั้งอดีต ปัจจุบัน และมีอนาคต
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะเป็นหน้าพรรค ตนภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันการเมืองที่ทรงเกียรติแห่งนี้ ซึ่งตนมั่นใจว่าก็เป็นเช่นเดียวกับสมาชิกพรรคทุกคนที่อยู่ร่วมอุดมการณ์มาจนถึงวันนี้ และจะอยู่ร่วมกันต่อไปในวันข้างหน้า พร้อมถือโอกาสนี้ขอบคุณบรรพบุรุษของพรรคฯ เพื่อนร่วมงาน กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกรพรคทุกคน ที่จับมือร่วมกันในการทำให้พรรคประชาธิปัตย์สามารถก้าวเดินมาจนกระทั่งถึงวันนี้ และจะเดินต่อไปในวันข้างหน้า
นายจุรินทร์ ยืนยันว่า จะทำงานร่วมกับกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรคทุกคน ที่จะนำประชาธิปัตย์ไปสู่ความสำเร็จ และนำอุดมการณ์ของพรรคฯ ไปสู่การทำหน้าที่เพื่อประชาชนให้สำเร็จยิ่งๆ ขึ้นต่อไป
ส่วนผลงานของพรรคที่ผ่านมามีความคาดหวังว่าจะได้รับการเลือกตั้ง ส.ส. มากขึ้นหรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เราไม่ได้ตั้งเป้าเรื่องตัวเลข แต่การทำงานของคณะกรรมการบริหารพรรคในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ได้นำพาพรรคเดินหน้าไปสู่การยอมรับของประชาชนยิ่งขึ้น ก็เหมือนกับที่พรรคได้ตั้งเป้าไว้แต่ต้นคือการได้รับการยอมรับ สิ่งที่เราต้องทำให้ชัดเจนคือการทำหน้าที่ เพราะสถาบันการเมืองต้องรู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต้องรู้หน้าที่ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร หากไม่รู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไรก็จะพากันถอยหลัง
ขณะที่การเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาลขึ้นมาอีกหรือไม่ ตนตอบไม่ได้ เพราะยังไม่ถึงเวลา ประชาชนจะเป็นคนแรกที่จะให้คำตอบ ไม่ใช่พรรคการเมืองให้คำตอบ ที่เหลือก็เป็นไปตามระบบรัฐสภาคือใครรวมเสียงข้างมากได้ก็เป็นรัฐบาล ซึ่งเป็นกติกาสากล