ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า มูลค่าการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 อยู่ที่ 23,400 ล้านบาท ลดลง 2.5% หดตัวต่อเนื่องจากปีก่อน ซึ่งเม็ดเงินใช้จ่ายปรับตัวลดลงเกือบทุกประเภทกิจกรรม เป็นผลจากสัดส่วนจำนวนคนกรุงเทพฯ ที่มีแผนจะทำกิจกรรมลดลงจากปีที่แล้ว ประกอบกับผลจากค่าครองชีพและเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ระมัดระวังการใช้จ่าย สอดคล้องไปกับสัญญานการใช้จ่ายในภาพรวมที่ผู้ตอบแบบสอบถามทุกกลุ่มรายได้ปรับลดค่าใช้จ่ายลงเมื่อเทียบกับ 3 เดือนก่อนหน้า
โดยเม็ดเงินใช้จ่ายสำหรับเลี้ยงสังสรรค์ ค่าอาหารและเครื่องดื่มมีสัดส่วนมากที่สุดที่ 40% ของเม็ดเงินรวม อยู่ที่ 9,500 ล้านบาท ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่มีแผนจะปรุงอาหารทานเองที่บ้าน โดยลดปริมาณการซื้อวัตถุดิบเท่าที่จำเป็นและราคาไม่สูงมากนักเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ส่วนเม็ดเงินการชอปปิ้งซื้อสินค้าอยู่ที่ 4,200 ล้านบาท ซึ่งผลการสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังเลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องแต่งกายเป็นหลัก แต่ลดจำนวนการซื้อสินค้าลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และงด/ลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยลง โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าตามโปรโมชั่นลดราคาส่งเสริมการขายมากที่สุด นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างยังมีแนวโน้มชะลอการซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ออกไปก่อน
ขณะที่ผู้ประกอบการค้าปลีกก็เผชิญต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ทำให้ต้องทยอยปรับขึ้นราคาสินค้าบางส่วน ซึ่งนอกจากการส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อและช่วยเพิ่มสภาพคล่องของธุรกิจในระยะนี้แล้ว ธุรกิจจะต้องเน้นการบริหารต้นทุนสินค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับการแข่งขันที่เข้มข้นในระยะยาว