นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณี จ.สุรินทร์ ประกาศความพร้อมเป็นจังหวัดนำร่องทำโควิด-19 เข้าสู่โรคประจำถิ่น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ ว่า การบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) เป็นเลขานุการฯ
นายอนุทิน กล่าวว่า หากผู้ว่าราชการจังหวัดมีความตั้งใจจริง ตนต้องขอชมเชย ส่งกำลังใจให้ หากแต่ละจังหวัดเกิดความกระตือรือร้น อยากให้กลับสู่สภาวะปกติที่สุด ก็เป็นเรื่องที่ดี กระทรวงสาธารณสุขพร้อมให้การสนับสนุนทุกจังหวัด จริงๆ ต้องทำในระดับจังหวัดขึ้นมา หากทำได้อย่างดี ก็จะเกิดเป็นระดับภูมิภาค และมาเป็นระดับประเทศ ทุกคนต้องช่วยกัน ต่างคนให้ความร่วมมือกัน ประสานงานกันระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และอื่นๆ เป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่
ด้านนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับ จ.สุรินทร์ ได้ดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2565 ด้วยระบบของจังหวัด สามารถทำได้ แต่ในภาพรวมจะต้องเป็นไปตามกรอบใหญ่ที่วางไว้ ซึ่งไม่ได้แตกต่างกัน เพียงแต่จังหวัดก็ประกาศตัวเพื่อสร้างกำลังใจให้ประชาชน เพื่อสร้างความร่วมมือ ก็เป็นเรื่องที่ดี ขณะที่การประกาศจากส่วนกลางก็เป็นตามกรอบใหญ่ ยึดตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) และกระทรวงสาธารณสุขวางกรอบไว้เป็นหลัก