นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์น ของนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า นิวซีแลนด์จะยกเลิกมาตรการบังคับฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับบุคลากรในบางสาขาอาชีพ เช่น ครูอาจารย์และตำรวจ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 เมษายนนี้ หลังการระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนใกล้พ้นจุดระบาดหนักสุด (Peak) ยกเว้นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุ และเจ้าหน้าที่ประจำด่านชายแดน จะต้องทำตามระเบียบการฉีดวัคซีนต่อไป
นอกจากนั้น นิวซีแลนด์จะยกเลิกมาตรการบังคับให้ประชาชนแสดงบัตรรับรองการรับวัคซีน หรือ Vaccine Pass เมื่อเข้าไปยังสถานที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร ร้านกาแฟและสถานที่สาธารณะอื่นๆ นับแต่วันที่ 4 เมษายนนี้
ปัจจุบัน นิวซีแลนด์มีประชากร 5 ล้านคน มีผู้ป่วยสะสม 538,839 คน เสียชีวิต 184 ราย กว่าร้อยละ 95 ของประชากรอายุ 12 ปีขึ้นไปของนิวซีแลนด์รับวัคซีนครบสองเข็ม นับเป็นอัตราการกระจายวัคซีนที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขจากหลายประเทศ ชื่นชมมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เข้มงวดของนิวซีแลนด์ เช่น การปิดประเทศตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มระบาดใหม่ๆ ที่เมืองอู่ฮั่นของประเทศจีน ในช่วงปลายปี 2562 รวมทั้งการล็อกดาวน์ศูนย์กลางการแพร่ระบาด ทำให้มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในอัตราที่ต่ำ เมื่อเทียบกับหลายประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้นของรัฐบาล สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนในนิวซีแลนด์ กระทั่งมีการประท้วงคัดค้านมาตรการบังคับฉีดวัคซีนที่บริเวณด้านนอกอาคารรัฐสภาในกรุงเวลลิงตันเมื่อต้นเดือนนี้