น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชน ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ภาคครัวเรือน หลังมีการดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจากนี้จะเร่งสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะให้มากขึ้นอีก เพื่อประชาชนที่มีปัญหาหนี้สินจะได้ใช้ประโยชน์จากมาตรกการช่วยเหลือของรัฐบาลอย่างเต็มที่ ได้แก่ การแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กำหนดให้การไกล่เกลี่ยและการปรับโครงสร้างหนี้เป็นวาระของประเทศ ซึ่งเน้นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFls) และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การแก้ปัญหาหนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการ โดยเฉพาะข้าราชการครูและข้าราชการตำรวจ
ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบนั้น ได้มีการดำเนินการ อาทิ จับกุมเจ้าหนี้นอกระบบที่กระทำผิดกฎหมายตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 – ธันวาคม 2564 จำนวน 10,375 คน กระทรวงการคลังได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบให้กับลูกหนี้นอกระบบและประชาชนทั่วไป เช่น สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และได้แก้ไขปัญหาการฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน โดยดำเนินคดีฐานความผิดแชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องสืบสวนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 10 เรื่อง และเป็นคดีพิเศษอยู่ระหว่างดำเนินการ 17 เรื่อง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งการทุกหน่วยงานบูรณาการการติดตามประเมินผลการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่มีหลายมิติและแตกต่างกันทั้งกลุ่มเป้าหมาย วิธีการ และระยะเวลา และเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน พร้อมเน้นให้หน่วยงานเจ้าของเรื่องสร้างการรับรู้ถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมา สามารถแก้ปัญหาลูกหนี้ได้จริง โดยต่อไปยังมีการแก้กฎหมายที่จะช่วยให้ลูกหนี้ใช้เงินสะสมในกองทุน แบ่งบางส่วนเพื่อแก้ปัญหาหนี้ปัจจุบันได้ ซึ่งประเด็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ถึงมาตรการแก้หนี้ของรัฐบาลเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะไม่อยากให้ประชาชนเสียโอกาสในการบรรเทาภาระหนี้