วันนี้ (20 มี.ค.) เวลา 18.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยัง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี สำนักงานใหญ่ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานครฯ เพื่อทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6)และทอดพระเนตรวีดิทัศน์ วีดิทัศน์พระราชญาณทัศน์ พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการก่อตั้งเอสซีจี “จากพระราชญาณทัศน์สู่นวัตกรรมแห่งอนาคต”นิทรรศการนวัตกรรมสินค้าบริการโซลูชั่นของธุรกิจในเครือ โดยมีคณะกรรมการบริษัทคณะผู้บริหารและพนักงาน เฝ้ารับเสด็จฯ
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมพระบรมราชานสุาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว และเสด็จขึ้นลานพระบรมราชานสุาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นคำจารึกที่ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ทรงวางพุ่มดอกไม้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ
พระบรมราชานสุาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ สำหรับสำหรับพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธีสำคัญ พร้อมทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ ประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ทั้ง 3 อาคาร อันเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของพนักงานที่คงความสง่างาม และสะดวกสบายสำหรับประชาชนทั่วไป ที่จะมาถวายสักการะ พระบรมราชานสุาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกฏุเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นพระบรมรูปแบบประทับบนพระราชบัลลังก์แห่งแรกในประเทศไทย ดำเนินการปั้นโดยช่างผู้ชำนาญการ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร และมีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษาในการปั้น หล่อ อย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน เพื่อให้สำเร็จอย่างประณีต งดงาม และสมพระเกียรติ
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จ ฯ ไปยังบริเวณที่ปลูกต้นไม้ ทรงปลูกต้นอินทนิลน้ำ จำนวน 1 ต้น จากนั้นเสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรวีดิทัศน์ วีดิทัศน์พระราชญาณทัศน์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการก่อตั้งเอสซีจี "จากพระราชญาณทัศน์
สู่นวัตกรรมแห่งอนาคต" และทอดพระเนตรนิทรรศการนวัตกรรมสินค้า บริการ โซลูชั่นของธุรกิจในเครือ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจซิเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 2.เอสซีจีเคมิคอลส์ 3.เอสซีจี แพคเกจจิ้งเพื่ออนาคตยั่งยืน 4.ธุรกิจร่วมทุน (คูโบต้า) 5.กิจกรรมเพื่อสังคม และห้องแสดงสินค้าชุมชน
บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ได้ดำเนินการจัดการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระอัจฉริยภาพ และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประชาชนและชาติไทยนานัปการ ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อตั้ง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัดสินใช้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2456 จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อจัดการทรัพยากรในประเทศอย่างคุ้มค่า ลดการนำเข้า และพัฒนาความรู้ ประสบการณ์ของคนไทยในการบริหารอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับความเจริญของบ้านเมือง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้กว่าหนึ่งศตวรรษ ที่บริษัทเอสซีจีได้เจริญเติบโตควบคู่ความเจริญทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศมาตลอด จากผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งแรกในประเทศไทย ก้าวสู่ความเป็นองค์กรนวัตกรรมชั้นนำในอาเชียน ทุกธุรกิจของเอสซีจีมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และดำเนินงานอย่างสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ตามแนวทาง ESG (Environmental, Social และ Governance) โดยมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และลดภาวะโลกร้อน โดยร่วมมือกับพันธมิตรในทุกภาคส่วน เพื่อสร้างคุณประโยชน์แก่เศรษฐกิจและสังคมไทย สมตามพระราชปณิธานของพระผู้พระราชทานกำเนิดองค์กร
การนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นพิธีทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมพระบรมราชานสุาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว และเสด็จขึ้นลานพระบรมราชานสุาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมแผ่นคำจารึกที่ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ทรงวางพุ่มดอกไม้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ
พระบรมราชานสุาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกฎุเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ สำหรับสำหรับพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธีสำคัญ พร้อมทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ ประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ซึ่งประดิษฐานอยู่หน้าอาคารสำนักงานใหญ่ทั้ง 3 อาคาร อันเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของพนักงานที่คงความสง่างาม และสะดวกสบายสำหรับประชาชนทั่วไป ที่จะมาถวายสักการะ พระบรมราชานสุาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกฏุเกล้าเจ้าอยู่หัว นับเป็นพระบรมรูปแบบประทับบนพระราชบัลลังก์แห่งแรกในประเทศไทย ดำเนินการปั้นโดยช่างผู้ชำนาญการ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร และมีผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษาในการปั้น หล่อ อย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน เพื่อให้สำเร็จอย่างประณีต งดงาม และสมพระเกียรติ
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จ ฯ ไปยังบริเวณที่ปลูกต้นไม้ ทรงปลูกต้นอินทนิลน้ำ จำนวน 1 ต้น จากนั้นเสด็จ ฯ ไปทอดพระเนตรวีดิทัศน์ วีดิทัศน์พระราชญาณทัศน์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการก่อตั้งเอสซีจี "จากพระราชญาณทัศน์
สู่นวัตกรรมแห่งอนาคต" และทอดพระเนตรนิทรรศการนวัตกรรมสินค้า บริการ โซลูชั่นของธุรกิจในเครือ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจซิเมนต์ และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 2.เอสซีจีเคมิคอลส์ 3.เอสซีจี แพคเกจจิ้งเพื่ออนาคตยั่งยืน 4.ธุรกิจร่วมทุน (คูโบต้า) 5.กิจกรรมเพื่อสังคม และห้องแสดงสินค้าชุมชน
บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ได้ดำเนินการจัดการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระอัจฉริยภาพ และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอันเป็นคุณประโยชน์แก่ประชาชนและชาติไทยนานัปการ ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกล จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อตั้ง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัดสินใช้ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2456 จึงถือกำเนิดขึ้นเพื่อจัดการทรัพยากรในประเทศอย่างคุ้มค่า ลดการนำเข้า และพัฒนาความรู้ ประสบการณ์ของคนไทยในการบริหารอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับความเจริญของบ้านเมือง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้กว่าหนึ่งศตวรรษ ที่บริษัทเอสซีจีได้เจริญเติบโตควบคู่ความเจริญทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศมาตลอด จากผู้ผลิตปูนซีเมนต์แห่งแรกในประเทศไทย ก้าวสู่ความเป็นองค์กรนวัตกรรมชั้นนำในอาเชียน ทุกธุรกิจของเอสซีจีมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต และดำเนินงานอย่างสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ตามแนวทาง ESG (Environmental, Social และ Governance) โดยมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตชุมชน ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และลดภาวะโลกร้อน โดยร่วมมือกับพันธมิตรในทุกภาคส่วน เพื่อสร้างคุณประโยชน์แก่เศรษฐกิจและสังคมไทย สมตามพระราชปณิธานของพระผู้พระราชทานกำเนิดองค์กร