นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “Panich Vikitsreth-พนิต วิกิตเศรษฐ์”ระบุว่า เป้าหมายในการได้ผู้ว่าราชการเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในการเลือก ส.ก.ก็มีความสำคัญเช่นกัน”
จากช่วงต้นสัปดาห์ที่ ครม. ได้มีการประกาศให้ กกต. กำหนดจัดวันเลือกตั้งสำหรับกรุงเทพฯและได้มีกระแสที่คนกรุงเทพตื่นตัวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ หลังจากที่ประชาชนไม่ได้มีโอกาสในการเลือกตั้ง ตั้งแต่มีการรัฐประหารในประเทศไทย เกือบ 10 ปี ที่ประชาชนไม่ได้ใช้สิทธิที่เป็นอำนาจของประชาชน
ต้องบอกแบบนี้ครับ ว่าการที่คนกรุงเทพฯตื่นตัวกับการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังมีกลไกอีก 1 อย่างที่สำคัญมากในการขับเคลื่อนกรุงเทพ ก็คือ สก. หรือ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต
ผมอยากจะถามคนกรุงเทพสักนิดครับ คุณทราบไหมว่า ส.ก.ทำหน้าที่อะไร ? คุณเคยได้สัมผัสอะไรกับสก.มั้ย หรือถ้าคุณรู้หรือเคยสัมผัสอยู่ แล้ว คุณคาดหวังอะไรจาก ส.ก.?
ผมขอเล่าจากประสบการณ์ที่ผมเคยเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพ ส.ก.เป็นกลไกในการถ่วงดุลอำนาจของการดำเนินงานใน กทม. ซึ่ง กทม.เองเหมือนหน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆ มีผู้ว่าราชการ รองผู้ว่าราชการ ทำหน้าที่บริหารงานในภาพรวม และเป็นผู้กำหนดนโยบายในการพัฒนาพื้นที่ และอีกส่วนที่สำคัญ คือ ส.ก. หรือ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมบริหาร ติดตาม และเสนอแนะแนวทางในการพัฒนากรุงเทพด้วยกัน
ที่ผ่านมา ส.ก.ในหลายพื้นที่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างเต็มความสามารถ หรือเต็มตามอำนาจหน้าที่ควรจะเป็น เช่น ส.ก. ลงไปฉีดยุง หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และเร่งด่วนให้กับประชาชนในพื้นที่นั้นฯ ซึ่งอาจจะคล้ายกับที่ทางสำนักงานเขตทำอยู่ แต่จริงๆแล้ว หน้าที่ที่ถูกต้องของ ส.ก.คือสิ่งที่ผมได้พูดไปตามข้างต้น นี่คือกลไกสำคัญของคนกรุงเทพฯ ที่จะต้องให้คนเหล่านี้เข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ได้ แต่ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา ส.ก.ที่ควรจะเป็นตัวแทนของประชาชน ก็กลายเป็นว่ามาจากการแต่งตั้งของ คสช. เลยกลายเป็นว่าความคาดหวังจากประชาชนก็ไม่เหมือนจากคนที่มาจากการเลือกตั้ง
ผมมองว่า ชาวกรุงเทพต้องให้ความสำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ผู้ว่าราชการ แต่ต้องมองลงไปถึง ส.ก. ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนนโยบายและงานในพื้นที่ กทม.
อ่านถึงตรงนี้คุณในฐานะคนกรุงเทพ ต้องตั้งคำถามแล้วว่าอยากได้ ส.ก. แบบไหน? เพื่อตอบโจทย์ ส่วนผมมองว่า ส.ก. ต้องเป็นตัวแทนของชาวกรุงเทพ ต้องเป็นคนที่พร้อมทำงาน กล้าถ่วงดุลอำนาจฝ่ายบริหาร และมีนโยบายที่ต้องเปลี่ยนกรุงเทพไปในทางที่ดี