xs
xsm
sm
md
lg

ชลบุรีพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 1,191 ราย เสียชีวิต 4 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 13 มีนาคม 2565 วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1,191 ราย มีเสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. คนที่พักอาศัยในจังหวัดระยอง เข้ามารักษาในจังหวัดชลบุรี 66 ราย สะสม 3,244 ราย และจังหวัดอื่นๆรวมสะสม 966 ราย

2. CLUSTER บริษัท ฟูจิตสึ เจเนอรัล (ประเทศไทย) จำกัด อ.ศรีราชา 5 ราย สะสม 165 ราย

3. อาชีพเสี่ยงพบปะผู้คนจำนวนมาก 34 ราย

4. บุคลากรทางการแพทย์ 25 ราย

5. ให้ประวัติเดินทางมาจากต่างจังหวัด (จังหวัดสมุทรปราการ 1 ราย)

6. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน
6.1 ในครอบครัว 275 ราย
6.2 จากสถานที่ทำงาน 47 ราย
6.3 บุคคลใกล้ชิด 72 ราย
6.4 ร่วมวงสังสรรค์ 5 ราย

7. สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน (อยู่ระหว่างสอบสวนโรค)17 ราย

8. อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 644 ราย

ณ วันที่ 13 มีนาคม 2565 จังหวัดชลบุรี มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็ม 878,442
คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 3,284 คน (อัตราป่วย 373.84 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 1 ราย (0.11 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 2 ราย (0.23 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 6 ราย (0.68 ต่อแสนประชากร)

มีผู้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม 1,895,923 คน ซึ่งในเดือนนี้ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว ติดเชื้อ 4,841 คน (อัตราป่วย 255.34 ต่อแสนประชากร) เสียชีวิต 13 ราย (0.69 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (0.26 ต่อแสนประชากร), ปอดอักเสบ 6 ราย (0.32 ต่อแสนประชากร)

ส่วนผู้ที่ฉีดวัคซีนเพียง 1 เข็ม 113,456 คน และไม่ได้ฉีดวัคซีนอีก 319,694 คน รวม 433,150 คน ในเดือนนี้พบผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไม่ครบและยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 6,273 คน (อัตราป่วย 1448.23 ต่อแสนประชากร), เสียชีวิต 27 ราย (6.23 ต่อแสนประชากร), ใส่ท่อหายใจ 5 ราย (1.15 ต่อแสนประชากร) , ปอดอักเสบ 33 ราย (7.62 ต่อแสนประชากร)

วันนี้พบผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจรายใหม่ 1 ราย (พบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2564), ผู้ป่วยปอดอับเสบรายใหม่ 1 ราย (พบประวัติการรับวัคซีนสี่เข็มเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2565), และพบผู้เสียชีวิตรายใหม่ 4 ราย (รายที่หนึ่งอายุ 79 ปี, รายที่สองอายุ 82 ปี, รายที่สามอายุ 84 ปี, รายที่สี่อายุ 85 ปี) สาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตคือ เป็นผู้สูงอายุ และมีโรคประจำตัวได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน ไขมันในเลือดผิดปกติ โรคไตเรื้อรัง (รายที่หนึ่งพบประวัติการรับวัคซีนสองเข็มเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2564 และอีกสามรายไม่พบประวัติการรับวัคซีน) ดังนั้น การฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ กล่าวคือต้องได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดเข็มที่สาม จะช่วยลดความรุนแรงของโควิด-19 ผู้ที่อาศัยในจังหวัดชลบุรี ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบ มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 และกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว หญิงตั้งครรภ์ จะมีอาการมากกว่ากลุ่มอื่น

ขณะนี้มีการระบาดเป็นวงกว้างทั้งจังหวัดชลบุรี

ร้านอาหารจำหน่ายสแอลกอฮอล์ ต้องคัดกรองลูกค้าด้วย ATK ทุกคน

ขณะนี้เริ่มมีการระบาดในสถานประกอบการจำนวนมาก พนักงานต้องได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์และเคร่งครัดในมาตรการองค์กร
1. เลิกงานไม่สังสรรค์
2. อาหารต้องไม่ทานใกล้ชิดด้วย
3. ป่วยต้องหยุด
4. จุดสัมผัสร่วม ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ เช่น ลูกบิด ราวบันได สแกนนิ้วมือ เซ็นชื่อแล้วต้องล้างมือทันที
5. เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ใส่แมสก์ตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ อยู่ห่างๆ กัน

สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต้องมีการกักตัวอย่างเข้มงวด ไม่ออกไปแพร่เชื้อ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชลบุรี อยู่บนพื้นฐานของสมดุลระหว่าง การควบคุมโรค เศรษฐกิจ สังคม

ปัจจัยความเร็วในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขึ้นกับการเคลื่อนที่นอกบ้านของประชาชน ความใกล้ชิดกัน รวมทั้งระยะเวลาในการใกล้ขิดกัน นอกเหนือจากการไม่เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล หากไม่ล้างมือก่อนจับหน้า เชื้อเข้าทางจมูก ปากตา ทำให้มีการติดเชื้อและแพร่ระบาดได้

ในสภาวะการณ์ที่โควิด-19 มีการระบาดในวงกว้าง จนอาจกลายเป็นโรคประจำถิ่น เชื้อไม่ได้หมดสิ่นไป ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้ แต่ต้องไม่ให้เกิดการระบาดจนระบบสาธารณสุขรองไม่ได้ และต้องไม่เสียชีวิต ดังนั้นจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของจังหวัดชลบุรี

ค้นให้ตรงเป้า เฝ้าให้ตรงจุด ร่วมใจฉีดวัคซีน สู่โรคประจำถิ่น

1.ค้นให้ตรงเป้า ผู้ที่มีอาการไข้หวัด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ได้วัคซีนไม่ครบ มีโอกาสเสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ ต้องได้รับการตรวจคัดกรองด้วย ATK

2.เฝ้าให้ตรงจุด สถานที่ที่มีกลุ่มเปาะบาง เสี่ยงค่อความรุนแรงหรือเสี่ยงต่อการควบคุมการระบาดได้ยาก หากเกิดการระบาดขึ้น ต้องได้รับการคัดกรองด้วยATK สม่ำเสมอ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน สถานพักพิงคนพิการ ร้านอาหารจำหน่ายแอลกอฮอล์ ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่เป็นผู้สูงอายุ หรือมีโรคประจำตัว

3.ร่วมใจฉีดวัคซีน วัคซีนลดความรุนแรงของโควิด-19 ได้ 100% แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงสามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ ยังคงต้องมีสุขอนามมัยส่วนบุคคล ขอความร่วมมือทุกท่านในการฉีดวัคซีน เพื่อลดความเร็วในการระบาด และลดความรุนแรงของโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ที่มีโรคประตำตัว ขณะนี้ยังคงมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุและมีโรคประจำตัว และเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน

4.สู่โรคประจำถิ่น เชื้อโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง และเข้าเป็นโรคประจำถิ่น ในที่สุด ทุกคนป้องกันตัวเองตามมาตรการ univeral protection ยังคงเคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล โดยเฉพาะช่วงที่กำลังมีการระบาดในวงกว้าง เพื่อชลอการระบาดไม่ให้รวดเร็วเกินไป ให้ดำเนินการตามมาตรการ คัดการด้วย ATK ก่อน และสามารถแยกกักที่บ้านได้หากไม่มีอาการและไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อความรุนแรงมากกว่ากลุ่มอื่นๆ

การควบคุมป้องกันการระบาดของโควิด-19 เป็นหน้าที่ของทุกคน