นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Nantiwat Samart ระบุว่า สงครามแบ่งฝ่ายชัดเจน โลกกลับมาสู่จุดที่แต่ละฝ่ายเผชิญหน้ากันชัดเจน เมื่ออเมริกาและพันธมิตรประกาศปิดล้อมและชวนพรรคพวกประณามรัสเซียว่ารุกรานยูเครน ติดตามมาด้วยการแซงชั่นและปิดกั้นรัสเซียจากตลาดเงินของโลก
รัสเซียประกาศตอบโต้ทันที ด้วยการแจ้งรายชื่อ 30 ประเทศที่ถือว่า"ไม่เป็นมิตร" อาจจะเป็นศัตรูในอนาคต นอกจากกลุ่มอียูแล้ว ในเอเชียก็มีญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวันและสิงคโปร์
แต่ที่น่าเป็นห่วงและกังวลคือ การตั้งป้อมค่ายของกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและอัฟริกาใต้ ที่จับมือกันเลิกใช้เงินสกุลดอลลาร์ในการแลกเปลี่ยนการค้า อย่าทำเป็นเล่นไป กลุ่มนี้มีประชาการรวมกันมากกว่า 3 พันล้านคน มูลค่าการค้ามหาศาลแน่นอน อาจจะเกิดภาวะเศรษฐถดถอยขึ้นทั่วโลก
นอกจากนั้น รัสเซียยังไม่หนำใจ ตอบโต้บรรดาธุรกิจต่างประเทศที่ถอนตัวจากการทำธุรกิจในรัสเซีย นักการเมืองรัสเซียจะออกกฎหมายยึดกิจการเหล่านั้นเป็นของรัฐ และทางการรัสเซียได้แสดงท่าทีที่จะใช้หนี้ที่ติดค้างกับต่างประเทศด้วยเงินสกุลรูเบิลรัสเซีย ใครไม่ยอมจะทำยังไง ในเมื่อตัดรัสเซียออกจากวงจรระบบ Swift
ระบบเศรษฐกิจการค้าโลกคงจะปั่นป่วนแน่นอน หากทุกฝ่ายยังคงดึงดันจะเอาชนะกันด้วยการตั้งป้อมค่าย
แต่สถานการณ์เลวร้ายด้านพลังงานกำลังจะมาเยือน เมื่อรัสเซียกำลังทบทวนการส่งน้ำมันและก๊าซให้ยุโรปผ่านท่อ NorthStream 1 ถ้าถูกปิดกั้น โดยระบุว่า อาจจะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกขึ้นไปสูงแตะ 300 เหรียญต่อบาร์เรล หากเป็นเช่นนั้นจริง พังพินาศกันทั้งโลกแน่นอน
โลกกำลังจะถอยหลังกลับสู่ยุคเมื่อ 60 ปีที่แล้ว ที่มีการเผชิญหน้าทั้งทางทหารและการค้า คงไม่อาจจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติต่อไปได้ ใครไม่ใช่พวกกรูแล้วจะเป็นใคร