นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนอย่างใกล้ชิด ซึ่งยอมรับอาจจะส่งผลกระทบต่อการส่งออก-นำเข้า ที่ต้องชะลอไปบ้าง โดยเฉพาะความผันผวนของค่าเงินที่กระทบต่อการคำนวณต้นทุน กำไร ขาดทุนอยู่บ้าง รวมทั้งราคาน้ำมันที่ขึ้นไป 100 กว่าเหรียญต่อบาร์เรล จะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ และราคาสินค้าในแต่ละหมวดอีกด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลให้ทุกกระทรวงช่วยกันเพื่อให้เกิดผลกระทบต่อกับราคาสินค้าน้อยที่สุด โดยขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากต้นทุนมีราคาสูงขึ้น ต้องมาพิจารณาหาจุดสมดุลว่าอยู่ตรงไหน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ดูแลทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ซึ่งเกษตรกรต้องการให้พืชเกษตรราคาดีที่สุด ส่วนผู้ประกอบการไม่ได้ต้องการเช่นนั้น เพราะต้นทุนจะสูงขึ้น ส่วนผู้บริโภคจะได้สินค้าที่มีราคาแพงขึ้น ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่บริหารจัดการของรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์เพื่อไม่ให้มีการค้ากำไรเกินควร โดยกระทรวงพาณิชย์ ยังคงกำกับราคาสินค้าภายในประเทศ 18 หมวดสำคัญ ยังไม่อนุญาตให้ขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด
นายจุรินทร์ กล่าวว่า สินค้าทุกหมวดในเวลานี้ถือว่าจะต้องควบคุม แม้ไม่ใช่สินค้าที่บริโภคอย่างเช่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการพูดถึงกระทรวงพาณิชย์จะควบคุมไปทำไม แต่ข้อเท็จจริงเวลานี้กลุ่มเครื่องถือเป็นสินค้าหลักที่จะอำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ ของผู้บริโภคในการดำรงชีวิตประจำวันไปแล้ว ดังนั้นหากกำกับราคาไว้ได้จะมีผล ไม่ให้กระทบกับผู้บริโภค ซึ่งราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าในขณะนี้ ราคาปรับลดลงมาเยอะอยู่ที่ร้อยละ 13-70 แล้วเป็นต้น
ส่วนราคาเนื้อสัตว์ ขณะนี้เนื้อหมูในห้างแม็คโครยังอยู่ที่ราคา 128 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศก็ต่ำกว่า 150 บาทต่อกิโลกรัม ต่อเนื่องมาเป็นกว่าสัปดาห์แล้ว ส่วนราคาไข่ไก่ไม่เกินใบละ 3.50 บาท โดยไข่ไก่เบอร์ 3 ยืนยันว่าทางกระทรวงพาณิชย์ยังคงกำกับราคาสินค้าได้เป็นอย่างดี แต่หากรายการสินค้าใดที่แบกรับต้นทุนไม่ไหวก็ให้นำเสนอแผนให้กรมการค้าภายในพิจารณาก่อนเป็นสำคัญ