กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิผลหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซียและภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกและลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ส่งผลให้ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ในวันที่ 25 ก.พ. – 3 มี.ค. 65 ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.นราธิวาส ยะลา นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี สงขลา และตรัง รวม 44 อำเภอ 227 ตำบล 1,122 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 59,563 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จ.นราธิวาส และปัตตานี รวม 10 อำเภอ 55 ตำบล 264 หมู่บ้าน 9,419 ครัวเรือน ดังนี้
1. นราธิวาส เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงปาดี อำเภอเมืองนราธิวาส รวม 14 ตำบล 102 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,712 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2. ปัตตานี เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอหนองจิก อำเภอยะรัง อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น และอำเภอยะหริ่ง รวม 41 ตำบล 162 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,707 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
ทั้งนี้ ปภ.ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง พร้อมนำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เรือ รถไฟฟ้าส่องสว่าง เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำท่วมขังในทุกพื้นที่ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป