นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมตรีวันนี้ (1 มี.ค. 65) เห็นชอบร่างข้อตกลงด้านแรงงานระหว่างกระทรวงแรงงานกับกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานและร่างข้อตกลงว่าด้วยการจัดหาแรงงานทำงานบ้าน โดยอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามข้อตกลงในนามของฝ่ายไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมซาอุดีอาระเบียหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร่างข้อตกลงแรงงานทั้ง 2 ฉบับ เพื่อสร้างความมั่นใจการจัดหาแรงงานไทยไปทำงานในซาอุดีอาระเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจริยธรรม มีประสิทธิภาพ คุ้มครองสิทธิของนายจ้างและลูกจ้าง โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันดำเนินการนำไปสู่ระบบที่เป็นที่ยอมรับ ซึ่งแรงงานและนายจ้างจะมีสิทธิรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ดำเนินมาตรการทางกฎหมายกับสำนักงานจัดหางาน บริษัทจัดหางาน หรือตัวแทนจัดหางาน ในกรณีละเมิดกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อกำหนดที่ใช้บังคับ
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาสังคมแห่งซาอุดีอาระเบีย จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการระบุคุณสมบัติและประเภทของงานที่เสนอให้มีการจัดหาแรงงาน รวมทั้งค่าจ้าง ผลประโยชน์ และเงื่อนไขอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และสร้างความมั่นใจว่าสวัสดิการและสิทธิของแรงงานไทยจะะได้รับการคุ้มครอง ขณะที่กระทรวงแรงงาน จะสร้างความมั่นใจว่าแรงงานที่จัดหาตรงตามเงื่อนไขทางด้านสุขภาพ และปราศจากโรคติดต่อ เป็นผู้ไม่มีประวัติเสื่อมเสีย และผ่านการฝึกอบรมทักษะที่เหมาะสม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลจะดำเนินการที่จำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่แรงงานในการเดินทางไปยังซาอุดีอาระเบียและการจัดส่งแรงงานกลับคืนสู่ไทย รวมทั้งสนับสนุนให้แรงงานปฏิบัติตามกฎหมาย ศีลธรรม คุณธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะทบทวน ประเมินผล และติดตามการดำเนินการตามข้อตกลงนี้เป็นระยะด้วย
สำหรับร่างข้อตกลง ฯ นี้ มีผลบังคับใช้ เมื่อมีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร มีระยะเวลา 5 ปี และจะต่ออายุได้อีก 5 ปี โดยอัตโนมัติ เว้นแต่ภาคีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดแสดงเจตจำนงระงับหรือสิ้นสุดข้อตกลง