ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยจากภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ผู้ประสบเหตุอุทกภัย และผู้ได้รับผลกระทบ
วันนี้ 28 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 09.50 น. พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลตันหยงมัส
อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส โดยมีนายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัด รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและรายงานการเกิดอุทกภัย
ทั้งนี้ องคมนตรีได้ขอบคุณส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้การช่วยเหลือประชาชน และแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย
ต่อจากนั้นเวลา 10.25 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 3,550 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ณ หอประชุมเทศบาลตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย และผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้รับทราบ
ในการนี้ องคมนตรีได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัย จำนวน 5 ครอบครัว ซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ สร้างขวัญกำลังใจ เพื่อให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปรกติสุขต่อไป ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดนราธิวาส แบ่งการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 77 ตำบล 589 หมู่บ้าน ได้เกิดอุทกภัย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 โดยได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงเหนือแพร่ปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นจังหวัดนราธิวาสทั้ง 13 อำเภอ ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มและท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ วัด มัสยิด โรงเรียน ได้รับความเสียหาย และได้รับความเดือดร้อนใน 13 อำเภอ 67 ตำบล 482 หมู่บ้าน ราษฎรเสียชีวิต 7 ศพ และได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบ จำนวน 37,796 ครัวเรือน
ในวันเดียวกันนี้ เวลา 12.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดยะลา ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอรามัน โดยมีนายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัด รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและรายงานการเกิดอุทกภัย ทั้งนี้ องคมนตรี ได้กล่าวชมเชยการทำงานของแต่ละหน่วยที่ได้มีการวางแผนมอบหมายหน้าที่กันอย่างชัดเจน ทำให้การให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว ตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานไว้ เพื่อให้หน่วยต่างๆ นำไปปฏิบัติ
ต่อจากนั้น เวลา 13.15 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 3,000 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดยะลา ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอรามัน จังหวัดยะลา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรีได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย และผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยซึ่งเป็นผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลรามัน อำเภอรามัน จังหวัดยะลา พร้อมทั้งพูดคุยสอบถามความเป็นอยู่ สร้างขวัญกำลังใจ เพื่อให้สามารถกลับมาดำรงชีวิตได้ตามปรกติสุขต่อไป ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดยะลา แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ 58 ตำบล 341 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงใต้แพร่ปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดยะลา ตั้งแต่วันที่ 23 -28 กุมภาพันธ์ 2565 ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และท่วมพื้นที่ทางการเกษตร ทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ สถานที่ราชการ โรงเรียน วัด มัสยิด เส้นทางคมนาคม สะพาน ได้รับความเสียหาย และได้รับความเดือดร้อนใน 6 อำเภอ 43 ตำบล 184 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,810 ครัวเรือน และเสียชีวิต 1 ราย