พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง และติดต่อกันได้ง่าย เด็กและผู้สูงอายุมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเด็กนักเรียนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน จึงทำให้มีความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 โดย กทม.ได้ฉีดวัคซีนในกับเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12-18 ปี ในระดับชั้นมัธยมศึกษาในโรงเรียนสังกัด กทม. ตามความสมัครใจไปแล้วในช่วงเดือน ต.ค.64 ที่ผ่านมา
กทม. ได้เริ่มฉีดวัคซีนให้แก่นักเรียนในโรงเรียนสังกัด กทม.ที่มีอายุ 5-11 ปี ระดับชั้นอนุบาล – ป.6 คน ที่ผู้ปกครองแจ้งความประสงค์ให้นักเรียนรับวัคซีน ซึ่งมีจำนวน 125,165 คน โดยเลือกชนิดของวัคซีน ได้ 3 สูตร คือ วัคซีนสูตรไฟเซอร์-ไฟเซอร์ วัคซีนสูตรซิโนแวค-ซิโนแวค และวัคซีนสูตรซิโนแวค-ไฟเซอร์ มีจำนวนทั้งสิ้น 125,165 คน แบ่งเป็น วัคซีนสูตรไฟเซอร์-ไฟเซอร์ จำนวน 122,130 คน วัคซีนสูตรซิโนแวค-ซิโนแวค จำนวน 1,437 คน และวัคซีนสูตรซิโนแวค-ไฟเซอร์ จำนวน 1,598 คน โดยใช้พื้นที่โรงเรียนสังกัด กทม.แบบ School-based หรือสถานที่อื่นที่เหมาะสม ตามที่สำนักงานเขตและศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) ในพื้นที่กำหนด เป็นสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีน
ในวันนี้ ผมได้มาตรวจเยี่ยมการฉีดวัคซีนโควิด-19 ณ จุดฉีดโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เขตสายไหม ซึ่งมีนักเรียนชั้น ป.5-6 จาก 9 โรงเรียน จำนวน 843 คน โดยเป็นการฉีดวัคซีนสูตรไฟเซอร์-ไฟเซอร์ และได้จัดเตรียมรถฉุกเฉินทางการแพทย์ รองรับหากเกิดกรณีฉุกเฉิน ซึ่งทางกทม.จะฉีดวัคซีนเข็มแรก ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-13 มี.ค.65 และเข็มที่สอง ระหว่างวันที่ 25 เม.ย.-29 พ.ค.65
กทม.ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนในสังกัดตามมาตรฐานอย่างปลอดภัย ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้ลูกหลานของเราปลอดภัยจากโควิด-19 กันครับ