วันนี้ (19 ก.พ.) น.พ.จักรรัฐ พิทยาวงค์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ขณะนี้ เป็นลักษณะที่กระจายไปในทุกกลุ่ม ไปในทุกคลัสเตอร์ ไม่ว่าเป็นในวงครอบครัว สถานที่ทำงาน หรือเพื่อนฝูง ส่วนใหญ่ติดจากการทำกิจกรรมร่วมกัน รับประทานอาหาร เพราะเป็นช่วงที่มีการถอดหน้ากากอนามัย ขณะที่โอกาสติดเชื้อจากคนไม่รู้จักแทบไม่มี เพราะไม่มีการพูดคุย หรือทานอาหารร่วมกัน
ทั้งนี้ คาดว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงไม่นิ่ง และจะไต่ระดับสูงขึ้นอีก เนื่องจากเริ่มมีการผ่อนคลาย และกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ส่วนกลุ่มที่ยังต้องห่วงกังวลพิเศษ คือกลุ่ม 608 เนื่องจากอัตราผู้ป่วยหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต ยังคงเป็นคนกลุ่มนี้ บางคนไม่ได้รับวัคซีน หรือ รับวัคซีนไม่ครบ จึงควรมารับวัคซีนตามกำหนด และอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจสถานการณ์การติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นว่า ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่ควรติดตามดูจำนวน คนที่ป่วยหนัก และใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะกลุ่มนี้เหล่านี้ คือคนที่มีอาการต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น ขณะเดียวกัน เมื่อมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะเห็นว่า ตัวเลขแรงงานลักลอบเข้าเมืองเพื่อมามีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจมีมากขึ้น ดังนั้น นายจ้างต้องเร่งนำแรงงานที่เข้ามารับวัคซีนให้ครบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม คาดว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อน่าจะสูงสุดราวกลางเดือนมีนาคมนี้ แต่หากทุกคนช่วยกันระวังตัว โอกาสป่วยติดเชื้อจะลดลงได้
ทั้งนี้ คาดว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงไม่นิ่ง และจะไต่ระดับสูงขึ้นอีก เนื่องจากเริ่มมีการผ่อนคลาย และกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ รวมถึงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ส่วนกลุ่มที่ยังต้องห่วงกังวลพิเศษ คือกลุ่ม 608 เนื่องจากอัตราผู้ป่วยหนัก ใส่ท่อช่วยหายใจ และเสียชีวิต ยังคงเป็นคนกลุ่มนี้ บางคนไม่ได้รับวัคซีน หรือ รับวัคซีนไม่ครบ จึงควรมารับวัคซีนตามกำหนด และอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจสถานการณ์การติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นว่า ส่วนใหญ่ไม่มีอาการ แต่ควรติดตามดูจำนวน คนที่ป่วยหนัก และใส่ท่อช่วยหายใจ เพราะกลุ่มนี้เหล่านี้ คือคนที่มีอาการต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น ขณะเดียวกัน เมื่อมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ จะเห็นว่า ตัวเลขแรงงานลักลอบเข้าเมืองเพื่อมามีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจมีมากขึ้น ดังนั้น นายจ้างต้องเร่งนำแรงงานที่เข้ามารับวัคซีนให้ครบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม คาดว่า ตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อน่าจะสูงสุดราวกลางเดือนมีนาคมนี้ แต่หากทุกคนช่วยกันระวังตัว โอกาสป่วยติดเชื้อจะลดลงได้