คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องรัฐบาลให้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันทุกชนิดเป็นเวลา 1 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ โดยระบุว่า
"ถ้าจำกันได้ก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะมีมติเห็นชอบให้ลดภาษีสรรพสามิต จากเดิมที่เก็บจากน้ำมันดีเซลลิตรละ 5.99 บาท เป็นไม่เกินลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 เดือน นั้น ดิฉันได้เรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันทุกชนิดเป็นเวลา 1 ปี เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ
การที่ดิฉันเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันทุกชนิด นั้น ดิฉันไม่ได้ทำเพื่อหาคะแนนเสียงหรือความนิยมทางการเมือง แต่เป็นการเรียกร้องที่มาจากเหตุผลทางเศรษฐกิจทั้งสิ้น กล่าวคือ
(1) ภาษีสรรพสามิตเป็นภาษีที่จัดเก็บจากสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องสำอาง หรือ น้ำหอม หรือสินค้าที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและสังคม เช่น บุหรี่ สุรา ไพ่ หรืออาบอบนวด หรือสินค้าที่รัฐต้องลงทุน เช่น ระบบโทรคมนาคม เป็นต้น เพื่อเอาเงินภาษีดังกล่าวมาใช้จ่ายและเยียวยาผลกระทบจากการบริโภคสินค้าเหล่านั้น ส่วนน้ำมันเป็นปัจจัยการผลิตที่จำเป็นจึงไม่ควรถูกจัดอยู่ในสินค้าที่ต้องจัดเก็บภาษีสรรพสามิต
(2) ประเทศไทยเป็นประเทศที่พึ่งพาการส่งออก (export led growth economy) ซึ่งผู้ประกอบการไทยจะต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการอื่นๆ ทั่วโลก แต่การที่ผู้ประกอบการไทยต้องแบกต้นทุนค่าน้ำมันที่แพงเพราะอัตราภาษีสรรพสามิตที่สูงจะทำให้อำนาจการแข่งขันลดลง ไม่เป็นผลดีต่อการส่งออกที่เป็นเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่งของประเทศ
(3) ดิฉันทราบดีว่ารัฐบาลมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตที่มาจากน้ำมันถึงปีละ 200,000 ล้านบาทเศษอันเป็นรายได้หลักของรัฐบาล หากรัฐบาลสูญเสียรายได้จากภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันจะทำให้ฐานะทางการคลังของรัฐบาลเปราะบางมากขึ้น แต่ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนยากลำบากรัฐบาลจะต้องเลือกทางที่ทำให้ประชาชนอยู่รอด เพราะประชาชนคือผู้ที่ต้องชำระหนี้ เมื่อประชาชนรอดและกลับมาแข็งแรงรัฐบาลก็จะได้ภาษีในรูปแบบอื่นคืนมา
(4) รัฐบาลต้องตระหนักว่าการทำให้ประชาชนมีชีวิตรอดยาวนานเท่าไรผู้ที่ได้รับประโยชน์คือรัฐบาล เพราะการมีชีวิตของประชาชนต้องกินต้องใช้ทุกวันนั่นคือการผลิตภาษีให้กับรัฐบาล หากปล่อยให้ประชาชนอดตายรัฐบาลก็หมดสิทธิได้ภาษีจากผู้นั้นอีกต่อไป ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทยจึงให้ความสำคัญกับประชาชนเพราะเป็นผู้ผลิตภาษีให้รัฐบาลใช้บริหารราชการแผ่นดิน ประชาชนจึงเป็นสินทรัพย์ (asset) ไม่ใช่ภาระ (liability) ของประเทศ จึงต้องเพิ่มศักยภาพให้ประชาชนให้เป็นประชากรคุณภาพตามนโยบายของพรรค
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ดิฉันจึงเรียกร้องให้รัฐบาลได้ทบทวนการลดอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตจากน้ำมันทุกประเภทเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี เพราะน้ำมันทุกชนิดเป็นต้นทุนของคนไทยทุกคน ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดภาระและเพิ่มอำนาจการแข่งขันให้กับประชาชนที่จะต้องเป็นผู้ชำระหนี้ที่รัฐบาลก่อขึ้น"