วันนี้ (11 ก.พ.) เวลา 10.00 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อทวงถามการใช้อำนาจสั่งให้นายก อบต.บ้านซุ้ง อ.นครพลวง พ้นจากหน้าที่ หลังจากที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่มานานแล้ว แต่จังหวัดกลับประวิงเวลาอย่างมีพิรุธ กลายเป็นที่ครหาของประชาชนนั้น
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน ต.บ้านซุ้ง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ว่านายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านซุ้ง ได้กระทำการทุจริตเงินโครงการคนดีศรีบ้านซุ้งต่อสู้ เพื่อเอาชนะยาเสพติด 2556 เป็นเหตุให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ทำการไต่สวนและสอบสวน และได้ทำการชี้มูลความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ พร้อมได้สรุปสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครหลวง นายอำเภอนครหลวง และหรือจังหวัดพระนครศรีอยุธยาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
กรณีดังกล่าว นายอำเภอนครหลวงได้รายงานเสนอความเห็นไปยังผู้ว่าฯแล้วว่าควรพิจารณาสั่งให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านซุ้ง พ้นจากตำแหน่ง ตาม ม.92 แห่งพรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้คณะกรรมการสอบสวนที่นายอำเภอนครหลวงแต่งตั้งจะมีความเห็นว่าพฤติการณ์ของนายก อบต.บ้านซุ้ง มีส่วนรู้เห็นกับการเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการดังกล่าวโดยทุจริต ไม่ตรงตามความเป็นจริง เป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ตามกฎหมายข้างต้น รวมถึงความผิดฐานอื่นๆ ด้วย แต่ทว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยากลับขอให้คณะกรรมการสอบสวนของนายอำเภอนครหลวงทำการสอบสวนเพิ่มเติมไม่จบไม่สิ้นเสียที ทั้งๆที่ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดไปแล้ว ใยต้องเสียเวลาไปสอบเพิ่มอีก
ซึ่งปัจจุบันนายอำเภอนครหลวงได้ดำเนินการและรายงานผลการสอบสวนเพิ่มเติมให้จังหวัดทราบนานแล้ว แต่ทว่าท่านผู้ว่าฯกลับยังมิได้ใช้อำนาจสั่งให้นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านซุ้ง พ้นจากตำแหน่ง ตาม ม.92 วรรคสอง แห่ง พรบ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติมภายใน 30 วันตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด อันอาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตาม ป.อาญา ม.157 ได้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้เดินทางมาทวงถามผลของการใช้อำนาจจากผู้ว่าฯในครั้งนี้ หากมีการประวิงเวลาอีก คงต้องร้องเรียนถึง รมว.มหาดไทยเพื่อสอบเอาผิดผู้ว่าฯท่านนี้ต่อไป