นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีเกิดปัญหาร้านค้าหลายแห่งได้หยุดรับเงินโครงการคนละครึ่ง หรือบางรายก็ขอถอนตัวออกไป เช่น แถวตลาดบองมาเช่ ร้านอาหารชื่อดังย่านวรจักร ย่านซอยเพชรเกษม 48 หลังถูกกรมสรรพากรส่งหนังสือเรียกเก็บภาษีนับหมื่น นับแสนบาท จนทำให้ร้านค้าเกรงกลัวจนต้องขอออกจากโครงการไปจำนวนมาก โดยยืนยันว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาโครงการคนละครึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับระบบของกรมสรรพากร เพราะเป็นระบบปิด ดังนั้น การเข้าร่วมโครงการรัฐจึงไม่เกี่ยวจะทำให้เสียภาษีเพิ่มแต่อย่างใด โดยขั้นตอนการเสียภาษีของร้านค้าหรือบุคคล เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ หากใครมีรายได้ถึงเกณฑ์ ก็มีหน้าที่ยื่นภาษี หรือหากใครยื่นภาษีอยู่แล้ว แต่ต่อมามียอดขายดีขึ้น ก็ต้องจ่ายภาษีเพิ่ม และร้านใดที่มีรายได้สูงๆ ปีหนึ่งเกิน 1.8 ล้านบาท ก็ต้องมาจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มตามหลักเกณฑ์
ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่าโครงการคนละครึ่ง ทำให้ร้านค้าต้องเสียภาษีเพิ่มนั้น อยากให้มองว่า หากการเข้าร่วมคนละครึ่ง ช่วยทำให้ร้านค้าขายของดีขึ้น มีรายได้เพิ่ม ก็ถือเป็นไปตามหลักการ เมื่อมีรายได้เพิ่มจะต้องเสียภาษีเพิ่มเช่นกัน
สำหรับความคืบหน้าโครงการคนละครึ่ง จนถึงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 มีผู้ใช้สิทธิ 21.76 ล้านราย มียอดการใช้จ่ายรวม 18,510 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 9,369 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่าย 9,140 ล้านบาท ขณะเดียวกัน มีประชาชนกดยืนยันสิทธิแล้ว 24.8 ล้านราย จากผู้มีสิทธิ 26.35 ล้านราย และมีผู้ประกอบการ และร้านค้าเข้าร่วมโครงการฯ 1.34 ล้านราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 12,422 ราย ซึ่งมีจำนวนผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการฯ ระยะที่ 4 มากกว่าโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 จำนวนประมาณ 3 หมื่นราย