พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีตลาดในกำกับของสำนักงานตลาด กรุงเทพมหานคร จำนวน 12 แห่ง ที่ผ่านมาสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรมอนามัย ได้ลงพื้นที่ตรวจประเมินเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันโควิด-19 ตามมาตรการ COVID-Free Setting อย่างต่อเนื่อง และพบว่าตลาดในกำกับดูแลได้เข้มงวดปฏิบัติตามมาตรการ ทั้งผู้ค้าและผู้มาใช้บริการอย่างเคร่งครัด โดยจัดจุดคัดกรองเข้า-ออก ติดตั้งอ่างล้างมือและเจลล้างมือ กำหนดจุดเว้นระยะห่าง จัดทำฉากกั้นโต๊ะรับประทานอาหารทุกโต๊ะภายในศูนย์อาหาร ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมและห้องสุขาเป็นประจำทุกวัน รวมทั้งดำเนินการล้างตลาดเป็นประจำทุกสัปดาห์ ทั้ง 12 แห่ง
ในส่วนการดำเนินการของสำนักอนามัย ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางมาตรการป้องกัน และการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในกลุ่มผู้ค้าและแรงงานในตลาดพื้นที่กรุงเทพมหานคร ผ่าน Zoom มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนสำนักงานเขต 50 เขต และผู้ประกอบการตลาดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 488 แห่ง โดยได้ขอความร่วมมือให้สำนักงานเขตและผู้ประกอบการตลาดดำเนินการตามประกาศกรุงเทพมหานคร และมาตรการป้องกันโรค เพื่อควบคุมกำกับดูแลตลาดให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ตามแนวทาง COVID-Free Setting ของกรมอนามัย โดยผู้ประกอบการตลาดต้องควบคุม กำกับ ดูแล ผู้ขาย แรงงาน และผู้ใช้บริการในตลาดให้ปฏิบัติตามมาตรการหลัก D-M-H-T-A (เว้นระยะห่าง-สวมหน้ากากอนามัย-ล้างมือ-วัดอุณหภูมิ-ใช้แอปพลิเคชัน) อย่างเคร่งครัด
ขณะที่ผู้ประกอบการตลาด ต้องดูแลตลาดให้ถูกสุขลักษณะด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอ เช่น การล้างทำความสะอาดตลาดเป็นประจำ การปรับสภาพแวดล้อมให้มีการระบายอากาศที่ดี มีการจัดการขยะที่ถูกต้อง และการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ส่วนผู้ประกอบการตลาด ต้องประเมินตนเองผ่านระบบ Thai Stop COVID Plus โดยสามารถพิมพ์ใบประกาศ COVID-Free Setting หรือ Thai Stop COVID Plus ติดแสดง ณ สถานประกอบการเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการ รวมทั้งให้ผู้ประกอบการตลาดประเมินตนเองผ่านระบบแอปพลิเคชัน BKK Food Safety ทุกเดือน
นอกจากนี้ ให้ตลาดในพื้นที่กรุงเทพมหานครมีการตรวจคัดกรองโควิด-19 และฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ขายและแรงงานในตลาดให้ครบตามหลักเกณฑ์ หากมีการจ้างแรงงานรายใหม่ ให้ผ่านการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ หรือมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 เบื้องต้น หรือผลตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ไม่เกิน 7 วัน หรือเป็นผู้เคยติดเชื้อมาแล้ว 1-3 เดือน
ปัจจุบัน สำนักอนามัยได้ตรวจสอบข้อมูลกับ 50 สำนักงานเขต ไม่พบการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ในตลาดพื้นที่กรุงเทพมหานคร อย่างไรก็ตาม ได้ดำเนินการตรวจเชิงรุกในตลาดทุก 2 เดือน และกำหนดแผน Sentinel Surveillance หรือมีการตรวจ Active Case-Finding (ACF) โดยใช้หลักการตรวจทางสถิติ เรียกว่า Lot Quality Assurance Sampling (LQAS) โดยตรวจในตลาดจำนวนทั้งสิ้น 75 คน หากมีผลบวก 1 คน จะปิดแผงค้านั้น แต่หากผลบวก 2 คนขึ้นไป จะปิดตลาด 3 วัน ดำเนินการล้างตลาดตามหลักสุขาภิบาลและฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ปิดแผงที่พบผู้ติดเชื้อ 14 วัน และมีการทำ ACF เพิ่มเติมในผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อคนแรก ถ้าพบผู้ติดเชื้อไม่เกินร้อยละ 10 จะต้องปิดแผงที่ติดเชื้อต่อให้ครบ 14 วัน นับจากวันที่พบผู้ติดเชื้อ โดยทางสำนักอนามัยจะออกเอกสารรับรองกับแผงค้าที่เหลือ และสามารถเปิดตลาดได้ในวันที่ 4 นับแต่วันที่ปิด
แต่ถ้าหากทำ ACF แล้วพบผู้ติดเชื้อมากกว่าร้อยละ 10 ของคนที่มาทำ ACF ก็จะต้องปิดตลาดต่อจนครบ 14 วัน และทำการสำรวจชุมชนที่พักรอบๆ ตลาด และอาจจะต้องดำเนินการ Exit Strategy คือ ฉีดวัคซีนให้กับคนในตลาดและรอบๆ ตลาด ในส่วนของการดำเนินงาน Bangkok Comprehensive COVID-19 Response Team (Bangkok CCRT) และ Sentinel Surveillance ในตลาด จะดำเนินการโดยการสุ่มตรวจ ATK ให้เจ้าหน้าที่หรือประชาชนที่อยู่ในตลาด ซึ่งเป็นคนที่ทำงานในตลาดหรือเดินตลาดเป็นประจำ ตลาดละ 75 ราย ร่วมกับการให้บริการฉีดวัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคโควิด-19 โดยทางศูนย์บริการสาธารณสุขจะลงพื้นที่ไปฉีดให้ที่ตลาด ซึ่งจะดำเนินการให้ครบ 488 แห่ง ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาใช้บริการว่ามีความปลอดภัย