พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจความคืบหน้าการปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยบริเวณทางข้ามหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท จุดที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขี่บิ๊กไบค์ ชนหมอกระต่าย เสียชีวิต เปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติแก้ปัญหาบริเวณจุดนี้ใน 3 เรื่อง คือ ทาพื้นสีแดงทางข้ามม้าลายให้กว้างขึ้น เพื่อให้ผู้ขับขี่เห็นชัดเจน ซึ่งดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ติดตั้งสัญญาณไฟจราจรแบบกดปุ่มสำหรับคนข้าม โดยจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ และติดตั้งกล้อง AI เพื่อตรวจจับผู้กระทำผิด จะใช้เวลา 1 เดือน ซึ่งทำควบคู่ไปกับ สน.พญาไท
ส่วนการแก้ไขภาพรวมของพื้นที่กรุงเทพฯ จากการสำรวจพบว่า มีทางม้าลาย 3,280 แห่ง มีติดตั้งสัญญาณไฟกะพริบเตือนความเร็ว 1,277 แห่ง เตือนให้ชะลอความเร็ว มีสัญญาณไฟจราจรแบบกดปุ่ม 226 จุด และมีทาพื้นสีแดงทางม้า 430 จุด กรุงเทพมหานครจึงมีมติให้ติดตั้งสัญญาณไฟจราจรแบบกดปุ่มเพิ่มอีก 100 จุด ในทางม้าลายที่อันตราย และทาพื้นสีแดงม้าลายให้ครบโดยเร็ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในมีนาคม ขณะที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้สั่งให้สำรวจเส้นทางม้าลายเพื่อเร่งแก้ไข เช่น ทางข้ามไม่ปลอดภัย มีพุ่มไม้กีดขวาง และจัดทำทางลาดสำหรับวีลแชร์
ส่วนทางม้าลายสามมติ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยออกแบบ ขอศึกษาก่อนว่าถูกต้องตามมาตราฐานหรือไม่ หากได้มาตรฐานก็สามารถทำได้
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า การจับปรับผู้กระทำผิดด้วยกล้อง AI อัตราโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท แต่อยู่ระหว่างปรับโทษเป็นไม่เกิน 4 พันบาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นผู้ที่ฝ่าฝืนไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย สามารถถ่ายคลิปส่งหลักฐานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ มีเงินรางวัลนำจับ ไม่เกิน 1 หมื่นบาท