xs
xsm
sm
md
lg

‘กรณ์’ถอดบทเรียนเกาหลีใต้ สร้างแรงจูงใจให้คนมาสมัครทหารเกณฑ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า พบทูตเกาหลี หมดศึกเลือกตั้งเดินหน้าช่วยประเทศต่อ

เที่ยงวานนี้มีนัดทานกลางวันกับท่านทูต 'เกาหลีใต้' ตอนโทรมานัด ทางสถานทูตถามผมว่า อยากทานอาหารประเภทไหน ผมตอบอย่างไม่ลังเลว่า เกาหลี

พอเจอกัน ผมสั่งได้โดยไม่ต้องดูเมนู ฝังหัวมาจากการดูซีรีส์ต่างๆ มาประมาณ 30 เรื่อง ท่านทูตหัวเราะชอบใจ ผมบอกว่า ท่านเพิ่งมาประจำประเทศไทยได้เพียงเดือนเดียว ดังนั้นท่านอาจจะไม่รู้ว่าอาหารประจำชาติของเราตอนนี้มีหมูกระทะติดเป็นอันดับต้นๆ

เราเริ่มบทสนทนาเชิงนโยบายกัน ท่านบอกว่าท่านได้ยินชื่อผม เพราะท่านทูตอเมริกันเล่าให้ท่านฟังว่าผมไปบรรยายเรื่องการหารายได้เข้าประเทศของเกาหลีด้วย "เศรษฐกิจสร้างสรรค์" ในงาน US-Asean

วันนี้เลยได้ถกกับตัวแทนประเทศเชิงลีกกันหลายเรื่อง ท่านอยากทราบว่า ท่านควรต้องคุยกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลีอย่างไรเพื่อให้เขามาลงทุนในไทย เพราะตอนนี้หลายบริษัทหาแนวทางกระจายความเสี่ยงออกจากจีน

ประเด็นนี้ผมได้แนะนำให้ท่านไปเยี่ยมชมและศึกษาโครงการ EEC ผมเสนอว่าไทยเราจะต้องมีการลงทุนครั้งใหญ่รอบใหม่ เพื่อปรับอุตสาหกรรมเราให้เป็นอุตสาหกรรมยุค ‘green and clean’ ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมยานยนต์ หรืออุตสาหกรรมพลังงาน และผมถามท่านเรื่องวิวัฒนาการการเกณฑ์ทหารของเกาหลีใต้ ประเด็นนี้น่าสนใจมาก

ท่านเล่าว่า รัฐบาลเกาหลีปรับเบี้ยเลี้ยงให้ทหารเกณฑ์เพิ่มขึ้น 100 เท่าจากเมื่อประมาณ 30 ปีก่อน และลดเวลาเกณฑ์ลงจาก 3 ปีเป็น 2 ปี และผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีที่แข่งขันกันอยู่ ณ ปัจจุบันมีข้อเสนอเพิ่มเบี้ยขึ้นอีกประมาณ 5 เท่า (เพื่อจ่ายเป็นเงินก้อนเมื่อครบ 2 ปี ให้ใช้เป็นทุนประเดิมในการเริ่มต้นชีวิตการงาน)

ส่วนระหว่างการเป็นทหารเกณฑ์ก็มีการฝึกวิชาชีพมากมายรวมไปถึงการทำ coding และทักษะยุคดิจิทัลอื่นๆ

ผมถามถึงข้อยกเว้นการเกณฑ์ซึ่งท่านทูตตอบว่าประเด็นนี้น่าสนใจมาก เพราะมีข้อยกเว้นในกรณีที่เป็นบุตรคนเดียวที่มีภาระดูแลพ่อแม่ ประเด็นปัญหาคือตอนนี้เกาหลีมีอัตราเด็กแรกเกิดที่ตํ่าที่สุดในโลก และแทบไม่มีใครมีลูกเกิน 1 คน ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ แทบทุกคนจะได้รับ การยกเว้น และกองทัพเกาหลีจะขาดทหารเกณฑ์

ดังนั้นการที่มีการปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยง น่าจะเป็นก้าวหนึ่งในการเตรียมสร้างแรงจูงใจให้กับการอาสาเป็นทหารในอนาคต

แนวคิดนี้ตรงกับของผมที่ผมเคยเสนอเป็นนโยบายตั้งแต่ตอนอยู่ประชาธิปัตย์ นั่นคือการเพิ่มเบี้ยตอบแทนพลทหาร เพิ่มมิติการฝึกทักษะ และเปิดโอกาสให้มีเส้นทางการเติบโตในกองทัพ ทั้งหมดนี้จะทำให้มีทหารอาสาโดยสมัครใจเพิ่มขึ้น และลดความจำเป็นในการเกณฑ์ทหาร โดยเฉพาะในกรณีเยาวชนคนไทยที่มีภาระดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

เรื่อง "แรงงานทักษะสูง" กับ 'เกณฑ์ทหาร' เหมือนจะเป็นคนละเรื่อง แต่มุมมองทางนโยบายสามารถปรับพัฒนาให้เป็นเรื่องเดียวกันได้ครับ ผลต่อประชาชนจะทวีคูณ ฝึกวินัย ฝึกความแข็งแรง หากได้ฝึกอาชีพแบบทักษะสูงขึ้นเพื่อรองรับอาชีพใหม่ๆ จะยิ่งมีแรงจูงใจอีกมาก

ส่วนเรื่องเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของเกาหลี พลาดไม่ได้เช่นกัน แต่ขออุบไว้เล่าคราวหน้านะครับ

ก่อนกลับผมมอบ 'ข้าวอิ่ม-ตรุษจีน' เป็นของฝาก ย้ำกับท่านว่านี่คือ "ข้าวอินทรีย์ ของพรีเมียม จากนาที่อร่อยที่สุดในประเทศไทย" ใครสนใจ เชิญได้ที่เพจ ข้าวอิ่ม - เกษตรเข้มแข็ง

สุดท้ายขอขอบคุณท่านเอกอัครราชทูต มุน ซึง ฮยอน สำหรับอาหารเกาหลีอร่อยคลาสสิคร้านแดจังกึมครับ