xs
xsm
sm
md
lg

‘หมอธีระ’คาดโอมิครอนในไทยยังไม่ถึงจุดสูงสุด แนะพบคนน้อยลง- เลี่ยงกินดื่มร่วมกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับสถานการณ์ “โควิด-19” ระบุว่า ทะลุ 362 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 3,343,710 คน ตายเพิ่ม 9,729 คน รวมแล้วติดไปรวม 362,701,881 คน เสียชีวิตรวม 5,644,172 คน

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ฝรั่งเศส อเมริกา อินเดีย บราซิล และเยอรมัน

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็นร้อยละ 86.87 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 83.3

ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็นร้อยละ 50.44 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 33.85

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 5 ใน 10 อันดับแรก และ 11 ใน 20 อันดับแรกของโลก

เทียบกันแต่ละทวีป สถานการณ์ขณะนี้ จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวัน ทวีปยุโรปสูงสุด ตามมาด้วยเอเชีย อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ตามลำดับ

แต่ทวีปอเมริกาเหนือมีอัตราส่วนระหว่างการเสียชีวิตกับการติดเชื้อใหม่สูงสุด โดยมากกว่าทวีปยุโรปและทวีปเอเชียถึง 3 เท่า

Omicron BA.2 ในเดนมาร์ก ทำท่าไม่ค่อยดี เพราะ BA.2 นั้นกระจายไปหลากหลายเมือง และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับข้อมูลจากประเทศอื่นๆ ที่ชี้ตรงกันว่า BA.2 น่าจะแพร่ได้ไวกว่า Omicron ดั้งเดิมอย่าง BA.1 (ดังภาพที่ 1 และ 2 จาก Pandemic Prevention Institute)

คงต้องติดตามการวิจัยกันอย่างใกล้ชิดว่า ความรุนแรง การดื้อต่อวัคซีน และสมรรถนะในการติดเชื้อซ้ำของ BA.2 นั้นจะแตกต่างไปจาก BA.1 หรือไม่

วิเคราะห์สถานการณ์ย้อนหลังของ Omicron ในอเมริกา (ภาพที่ 3)

หากเทียบกับระลอกก่อนๆ จะพบว่าอเมริกาโดน Omicron โจมตีหนัก ทำให้มีจำนวนการติดเชื้อสูงกว่าทุกระลอกที่ผ่านมา

แม้วิจัยพิสูจน์แล้วว่าความรุนแรงจะน้อยกว่าเดลต้า แต่ก็ส่งผลกระทบให้มีจำนวนคนป่วยที่ต้องมารับบริการฉุกเฉินและนอนโรงพยาบาลมากกว่าเดิม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวัยเด็ก ที่เราเห็นข้อมูลมาก่อนหน้านี้ว่ามีการติดเชื้อ และป่วยเพิ่มขึ้นมาก แม้ Omicron จะผ่านพีคไปแล้ว แต่ในช่วงอายุนี้ในหลายรัฐก็ยังถีบตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับไทยเรา ดูธรรมชาติการระบาดของทั่วโลก ต้องยอมรับว่าทวีปเอเชียนั้นเริ่มต้นการระบาดช้ากว่าทวีปอื่นๆ และกำลังอยู่ในขาขึ้น ยังไม่ได้พีคแล้วลงแบบทวีปอื่น

ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ที่มีการหลั่งไหลของนักท่องเที่ยวและคนที่เดินทางจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ย่อมมีโอกาสที่ไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีนั้นจะเล็ดรอดเข้ามาได้ ดังที่เห็นล่าสุดคือ BA.2

ตีความตามเนื้อผ้า ทั้งในเรื่องเงื่อนเวลาการระบาด และสภาพแวดล้อมเชิงนโยบาย ณ จุดนี้ น่าจะยังไม่ใช่พีคของเรา

การป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด เป็นกิจวัตร เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า

พบคนน้อยลง เท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ อยู่กันห่างๆ

เลี่ยงการกินดื่มร่วมกัน ไม่แชร์ของกินของใช้

เตรียมตัว เตรียมพร้อมเสมอ ข้าวของเครื่องใช้จำเป็น หยูกยาสามัญประจำบ้าน รวมถึงห้องหับและชุดตรวจ ATK เผื่อสมาชิกในครอบครัวไม่สบายจะได้ควักแผนที่เตรียมไว้มาใช้ได้ทันที

การดำรงชีวิตประจำวันในอนาคตถัดจากนี้ สวมหน้ากาก ลดความแออัด รักษาระยะห่าง และเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง จะเป็นเรื่องที่ควรทำเพื่อประคับประคองให้สุขภาพไปพร้อมกับการทำมาหาเลี้ยงชีพ

รักตัวเองมากๆ ตระหนักถึง Long COVID ไว้เสมอ เพราะโควิดไม่ใช่หวัดธรรมดา