xs
xsm
sm
md
lg

"หมอเฉลิมชัย"เผยไฟเซอร์เริ่มทดลองวัคซีนรุ่นใหม่ใช้ต่อสู้โอมิครอน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Chalermchai Boonyaleepun ระบุว่า วัคซีนโควิดเจนที่สอง ตัวแรกของโลกจะทดลองในมนุษย์แล้ว เพื่อรับมือกับไวรัสโอมิครอน
นับจากที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนอยู่ในกลุ่มที่น่าเป็นกังวล (VOC) ลำดับที่ 5 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2564

ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา มีการแพร่ระบาดรวดเร็วไปกว่า 160 ประเทศทั่วโลก และในหลายประเทศได้กลายเป็นสายพันธุ์หลักแซงหน้าไวรัสเดลต้าเดิม
นอกจากนั้นยังพบว่าวัคซีนเจนเนอเรชั่นที่ 1 ซึ่งผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับไวรัสสายพันธุ์อู่ฮั่น และใช้ได้ผลดีพอสมควรกับอัลฟ่าและเดลต้านั้น ได้ผลลดลงเมื่อพบกับโอมิครอน

โดยฉีดครบ 2 เข็ม มีประสิทธิผลในการป้องกันติดเชื้อเพียง 30% และฉีดเพิ่มเข็ม 3 ก็ได้ประสิทธิผลในการป้องกัน 60-70%

ทุกฝ่ายจึงมุ่งเป้าไปในการพัฒนาปรับปรุงวัคซีนเจนเนอเรชั่นที่ 1 ให้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 เพื่อรับมือกับไวรัสโอมิครอนโดยตรง

โดยในช่วงแรกนั้น บริษัท Pfizer ได้ออกมาแถลงว่า สามารถปรับเปลี่ยนได้ภายใน 100 วันหรือสามเดือน
เมื่อวานนี้ 25 มกราคม 2565 ทางบริษัทได้ออกมาแถลงว่า การปรับเปลี่ยนวัคซีนเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 เรียบร้อยแล้ว

จะเริ่มทดลองในมนุษย์ได้แล้ว โดยจะทดลองในอาสาสมัคร 1,420 คน อายุ 18-55 ปี มีเป้าหมายเพื่อจะพิสูจน์เรื่องประสิทธิผลว่า ระดับภูมิคุ้มกันจะสูงเท่ากับเจน 1 ที่เคยรับมือสายพันธุ์เดิมได้หรือไม่ เมื่อวัคซีนเจน 2 พบกับไวรัสโอมิครอน และต้องการพิสูจน์ว่าจะอยู่ได้นานมากน้อยเพียงใด ตลอดจนมีความปลอดภัยหรือผลข้างเคียงในระดับใด โดยจะแบ่งกลุ่มอาสาสมัครเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1) ฉีดวัคซีนไฟเซอร์แล้ว 2 เข็ม
จะฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนเจนเนอเรชั่นที่ 2 อีก 1-2 โดส
2) ฉีดไฟเซอร์แล้ว 3 เข็ม จะฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนใหม่ 1 โดส
3) กลุ่มที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนเลย จะฉีดด้วยวัคซีนใหม่ 3 โดส

อย่างไรก็ตามมีนักวิชาการบางส่วนให้ความเห็นว่า การพัฒนาวัคซีนโดยเจาะจงไปที่ไวรัสสายพันธุ์เดียว (Singlevarent) น่าจะมีความเสี่ยงในอนาคต ควรจะพัฒนาเป็นแบบหลายสายพันธุ์ (Multivarent) ทำนองเดียวกับไข้หวัดใหญ่ เพราะไวรัสก่อโรคโควิดมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ถ้าพัฒนาวัคซีนมุ่งไปที่โอมิครอน แล้วเกิดมีไวรัสอื่นขึ้นมาใหม่ จะทำให้เดือดร้อนต้องพัฒนาวัคซีนเจนสามต่อไป