นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มกราคม 2565 เวลา 16.00 นาฬิกา) พบผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย เป็นการพบในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 16 ราย และจากเรือนจำสีแดง 4 ราย จึงมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ทั้งสิ้น 463 ราย (กลุ่มสีเขียว 82.7% สีเหลือง 16% และสีแดง 1.3%) มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 85,359 ราย หรือ 96.8% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 88,174 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตเป็นวันที่ 6 จึงมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 187 ราย คิดเป็น 0.21% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า เรือนจำกลางเชียงใหม่พ้นจากการระบาดซ้ำแล้วในวันนี้ ขณะที่พบการระบาดเพิ่มใหม่ในเรือนจำจังหวัดหนองคายและเรือนจำจังหวัดพังงา ซึ่งทั้ง 2 แห่งได้รับการดูแลรักษา ให้ยา และควบคุมการระบาดจากโรงพยาบาลแม่ข่ายและสำนักงานสาธารณสุขในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้จำนวนเรือนจำสีขาวในวันนี้ลดลงอยู่ที่ 135 แห่ง และเรือนจำสีแดงเพิ่มเป็น 7 แห่ง โดยแบ่งเป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 6 แห่ง (เรือนจำระบาดใหม่ คือ เรือนจำจังหวัดหนองคาย เรือนจำจังหวัดพังงา เรือนจำอำเภอไชยาและเรือนจำกลางพิษณุโลก และเรือนจำที่พบการติดเชื้อซ้ำในแดนบางส่วน คือ เรือนจำจังหวัดภูเก็ตและเรือนจำจังหวัดอุทัยธานี) ส่วนเรือนจำกลางราชบุรี ขณะนี้อยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) แล้ว โดยมีกำหนดพ้นจากการระบาดในวันพรุ่งนี้ (22 มกราคม)
ด้านการดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบัน มีผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานได้รับการฉีดวัคซีนจนครบโดสแล้ว จำนวน 264,810 ราย หรือคิดเป็น 94.3% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 280,940 ราย