น.ส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ประชาชนให้ความสำคัญกับปัญหาปากท้อง และรายได้ครัวเรือน ส่งผลให้มีการสร้างและเผยแพร่ข่าวปลอม โดยใช้ประโยชน์จากความกังวลของประชาชนในเรื่องดังกล่าว เพื่อดึงดูดความสนใจ และลวงให้มีการส่งต่อข่าวปลอม โดยพบว่าเริ่มมีความถี่ของข่าวปลอมที่อ้างชื่อสถาบันการเงินว่ามีโปรแกรมเงินกู้เงื่อนไขพิเศษ ที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในความเป็นจริง และยังพบข่าวปลอมในประเด็นที่เกี่ยวกับแรงงานและค่าแรงอีกด้วย ซึ่งทั้งสองเรื่องติดอันดับข่าวปลอมที่มีคนสนใจจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผลการรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 7-13 ม.ค. 65 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมพบว่า ข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 10 อันดับแรก มีดังนี้
อันดับ 1 มัสยิดกลายเป็นสาขาของธนาคารอิสลาม 1,000 แห่งทั่วประเทศ
อันดับ 2 ใช้นิ้วหัวแม่มือจิกร่องระหว่างปากและใต้จมูก ช่วยคนที่วูบหมดสติ ให้ฟื้นคืน
อันดับ 3 มุสลิมไทยได้เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารอิสลามทุกคน สามารถกู้เงินโดยไม่ต้องใช้หนี้คืนได้
อันดับ 4 บขส. หยุดเดินรถทุกเส้นทางทั่วประเทศไทย
อันดับ 5 ธ.ออมสิน ให้กู้ซื้อบ้าน 1 ล้านบาท ผ่อนคืนเดือนละ 10 บาท
อันดับ 6 รักษาอาการเจ็บตาด้วยตนเอง โดยใช้น้ำนมแม่หยอดตา
อันดับ 7 กรมการจัดหางานจัดให้คนว่างงาน หรือหารายได้เสริม เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อรับเงินแสน
อันดับ 8 นายกฯ สั่ง ล็อกดาวน์ 5 จังหวัด มีความเสี่ยงสูง
อันดับ 9 ไมโครเวฟปล่อยคลื่นวิทยุออกมาขณะอุ่นอาหาร ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
อันดับ 10 ลูกจ้างทดลองงาน หากใช้สิทธิลาป่วยจะไม่ได้รับเงินค่าจ้างในวันที่ลาป่วย
สำหรับในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมมีข้อความเข้ามาทั้งสิ้น 11,529,633 ข้อความ โดยจากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 202 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 91 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด-19 จำนวน 35 เรื่อง