นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พร้อมด้วย ผศ.ดร. เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ดร.นเรศ ดำรงชัย และทีมงาน ศึกษาการให้บริการทางสุขภาพระยะไกล ทรูเฮลธ์ (True HEALTH) ที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส สาขารามอินทรา ในวันนี้ (9 ม.ค.) ซึ่งเป็นศูนย์ให้บริการปรึกษาเรื่องสุขภาพผ่านแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพระยะไกล ครอบคลุมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต โดยมีทีมแพทย์พร้อมให้คำปรึกษามากกว่า 100 คน โดยนายชัชชาติได้หารือกับ นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ถึงประโยชน์ของการใช้ดิจิทัลเชื่อมโยงกับยกระดับความสะดวกในการให้บริการโดยเฉพาะด้านสุขภาพ เพื่อจะได้นำไปพัฒนาเป็นนโยบายในการเพิ่มสมรรถภาพของการให้บริการสาธารณสุขของกรุงเทพมหานครในอนาคต
ทั้งนี้ การเยี่ยมชมศูนย์ให้คำปรึกษาสุขภาพดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการกระจายบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแบบระยะไกล หรือ Telemedicine ไปยังชุมชนต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยอาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นเครื่องมือ ร่วมกับบุคลากรทางสาธารณสุขของ กทม.ทั้งที่อยู่ในศูนย์สาธารณสุขและโรงพยาบาล โดยระบบดังกล่าวจะช่วยลดความหนาแน่นในสถานพยาบาล ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เพิ่มความสะดวก ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายจากการเดินทางของประชาชนได้อีกด้วย โดยชุมชนสามารถเชื่อมต่อกับแพทย์ในระหว่างการรักษาขั้นต้นผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลตลอดจนจะมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาหน่วยเคลื่อนที่ (mobile unit) ที่เข้าถึงชุมชน เช่น การดูแลผู้ป่วยติดเตียง การพัฒนาฐานข้อมูลออนไลน์ การตรวจวัดชีพจร ความดันโลหิต การตรวจอาการป่วยขั้นต้น ฯลฯ พร้อมย้ำว่า การพัฒนาประสิทธิภาพด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยนำการระบาดของโควิด-19 มาเป็นบทเรียนและปรับปรุงให้ดีขึ้น
ทั้งนี้ การเยี่ยมชมศูนย์ให้คำปรึกษาสุขภาพดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการกระจายบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแบบระยะไกล หรือ Telemedicine ไปยังชุมชนต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยอาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นเครื่องมือ ร่วมกับบุคลากรทางสาธารณสุขของ กทม.ทั้งที่อยู่ในศูนย์สาธารณสุขและโรงพยาบาล โดยระบบดังกล่าวจะช่วยลดความหนาแน่นในสถานพยาบาล ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ เพิ่มความสะดวก ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายจากการเดินทางของประชาชนได้อีกด้วย โดยชุมชนสามารถเชื่อมต่อกับแพทย์ในระหว่างการรักษาขั้นต้นผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลตลอดจนจะมีการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาหน่วยเคลื่อนที่ (mobile unit) ที่เข้าถึงชุมชน เช่น การดูแลผู้ป่วยติดเตียง การพัฒนาฐานข้อมูลออนไลน์ การตรวจวัดชีพจร ความดันโลหิต การตรวจอาการป่วยขั้นต้น ฯลฯ พร้อมย้ำว่า การพัฒนาประสิทธิภาพด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยนำการระบาดของโควิด-19 มาเป็นบทเรียนและปรับปรุงให้ดีขึ้น