xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ขอบคุณ ศบค.ทำงานเต็มกำลัง ย้ำทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือ"โอมิครอน"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณ ศบค. ที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลัง ทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตที่เกิดขึ้นในปี 2564 ได้ จนได้รับการยอมรับและยกย่องให้เป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขอันดับ 5 ของโลก แต่การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังไม่ยุติลง ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งหลายประเทศกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง โดยที่ไทยพบการระบาดสายพันธุ์โอมิครอนจากนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เดินทางเข้าประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข โดยขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็ง พร้อมขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชน ไม่ตื่นตระหนก และให้ ศปก.สธ. และ ศปก.ศบค. เตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขของไทย ทั้งเรื่องวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ การครองเตียงต่างๆ ให้พร้อม ชุดตรวจ ATK ยารักษาที่จำเป็นต้องมีเพียงพอ รวมทั้งเตรียมโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย เพื่อให้สามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเร่งรัดแผนการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ซึ่งในปี 2564 สามารถฉีดวัคซีนไปได้ประมาณ 105 ล้านโดส ดังนั้น ต้องวางแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 และเข็ม 4 และการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 12 ปี ด้วยวัคซีนที่ได้รับการรับรองแล้ว เพื่อจะช่วยลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อะไรก็ตาม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยยังมีไม่มากนัก เพราะประเทศต่างๆ ยังคงไม่ให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชน สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล และ COVID-Free Setting รวมถึงการปฏิบัติงานที่บ้าน (Work From Home) และต้องมีการพัฒนาระบบติดตามตัว แอปพลิเคชันหมอพร้อม หมอชนะ ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกทั้งย้ำว่า ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป โดยต้องระมัดระวังอย่างที่สุดเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยต้องให้ความสำคัญในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ขอให้หน่วยงานในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ร่วมมือการแก้ปัญหาอย่างเข้มแข็งต่อไป