นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ กิจการ ภาคธุรกิจ และเอกชน กลับมาเปิดดำเนินการปกติ เพื่อเตรียมแนวทางการป้องกันและรักษาผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์ต่างๆ ให้ทันสถานการณ์ โดยจะนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อปรับมาตรการในที่ประชุม ศบค. วันที่ 7 มกราคมนี้
นายธนกร ระบุว่า รัฐบาลจะทำการประเมินสถานการณ์การติดเชื้อระลอกหลังปีใหม่เป็นเวลาประมาณ 4 สัปดาห์ โดย 2 สัปดาห์แรก จะประเมินสถานการณ์ จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ ส่วน 2 สัปดาห์หลัง จะประเมินผู้ป่วยอาการหนักและอัตราการเสียชีวิต ก่อนตัดสินใจปรับมาตรการต่างๆ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีน โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง สตรีมีครรภ์ ให้ติดต่อขอรับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุด หรือหากเคยฉีดแล้วก็ควรติดต่อขอฉีดเข็มกระตุ้น เนื่องจากวัคซีนเข็มกระตุ้นจะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานต่อเชื้อโควิด-19 สามารถลดการป่วยหนักและอัตราการเสียชีวิตได้
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงจะติดเชื้อ หรือเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงตามที่ประกาศไว้ ขอให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยการเฝ้าระวังตนเอง กักตัว และควรเข้าตรวจสอบหาเชื้อโควิด-19 ทันที ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู้ผู้อื่น และลดอัตราการป่วยหนักของตนเอง
นายธนกร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีย้ำภายหลังเทศกาลปีใหม่ขอความร่วมมือประชาชนให้ความสำคัญการใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ตรวจคัดกรองตนเองด้วย ATK และ Work from Home เป็นเวลา 14 วัน หากจำเป็นต้องเริ่มปฏิบัติงานทันทีขอให้ตรวจ ATK ก่อนเข้าทำงาน และควรตรวจซ้ำทุก 3 วัน เพื่อเฝ้าระวังอาการ งดการรวมกลุ่มพูดคุย รับประทานอาหาร เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อออกภายนอก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะคอยติดตามสถานการณ์เพื่อประเมินปรับใช้มาตรการที่เหมาะสมต่อไป