กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ (IMF) เลื่อนกำหนดการเผยแพร่รายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจากเดิมวันที่ 19 มกราคมนี้ ไปเป็นวันที่ 25 มกราคม ซึ่งนายเจอร์รี ไรซ์ โฆษกไอเอ็มเอฟ แจ้งว่า เนื่องจากต้องทบทวนการพัฒนาล่าสุดของสถานการณ์โควิด-19 และเมื่อเดือนที่แล้ว (ธ.ค.64) นางคริสตาลินา จอร์เจียวา กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งต่อไป คณะกรรมการจะมีการพิจารณาปรับลดคาดการเศรษฐกิจโลก เพื่อสะท้อนผลกระทบจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ไอเอ็มเอฟคาดว่า เศรษฐกิจโลกปี 2564 จะเติบโตร้อยละ 5.9 และจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 4.9 ในปีนี้ (2565) ขณะที่ยังมีความไม่แน่นอนที่เกิดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกเกือบ 5.5 ล้านคน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าไอเอ็มเอฟจะปรับลดประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีความล้มเหลวของรัฐสภาในการผ่านงบประมาณรายจ่ายด้านสังคมและสภาพอากาศของประธานาธิบดี โจ ไบเดน มูลค่า 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยเมื่อเดือนตุลาคม ไอเอ็มเอฟปรับลดคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีของสหรัฐฯ ในปี 2564 ลงเป็นร้อยละ 6 โดยอ้างถึงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและปัญหาแรงงาน ขณะที่คาดการณ์การเติบโตของจีดีพีปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 5.2 แต่หลังจากนั้นสถานการณ์ของโรคระบาดก็กลับมารุนแรงขึ้นอีกครั้ง และมีความแตกแยกในสภาคองเกรสรุนแรงมากขึ้น
