จากกรณีการโพสต์และแชร์ข้อมูลที่ระบุว่า สนามบินเบตง อนุมัติการก่อสร้างโดยรัฐบาลยุคพลเอกประยุทธ์ในปี 2558 งบประมาณ 1,900 ล้านบาท สร้างเสร็จมา 2 ปีกว่าแล้ว แต่เปิดใช้งานไม่ได้เพราะรันเวย์สั้น เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ลงไม่ได้ เวลาเครื่องจะลงต้องตั้งลำเข้าไปในน่านฟ้าประเทศเพื่อนบ้าน และสนามบินไม่มีคลังน้ำมันสำหรับเครื่องบินนั้น
โดยกรมท่าอากาศยาน ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงข้อเท็จจริงว่า กรมท่าอากาศยานได้ดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 วัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการคมนาคมในพื้นที่ที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันไม่สะดวกต่อการเดินทาง และเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งก่อนการดำเนินการก่อสร้างกรมท่าอากาศยาน ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ วิเคราะห์ข้อมูลทางกายภาพและทางเศรษฐศาสตร์ จึงได้ข้อสรุปในการก่อสร้างที่วางไว้คือ ทางวิ่ง (Runway) ขนาด 30x1,800 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง (ATR-72/Q-400) ซึ่งตามหลักการดำเนินงานท่าอากาศยานจะมีการติดตามตัวเลขผู้โดยสารและเที่ยวบิน เพื่อนำมาวิเคราะห์ในการเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานต่างๆ โดยจะต้องมีระยะของการพัฒนาตามขนาดและความต้องการเดินทางของประชาชน
และสำหรับเส้นทางบิน การขึ้นลงของอากาศยาน จะอยู่ในน่านฟ้าของประเทศไทยเท่านั้น ไม่มีล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด และขณะนี้ได้มีสายการบินขออนุญาตทำการบินไว้ 2 เส้นทาง คือ 1. หาดใหญ่-เบตง-หาดใหญ่ และ 2. ดอนเมือง-เบตง-ดอนเมือง ปัจจุบันท่าอากาศยานเบตงได้มีการให้บริการเที่ยวบินทางราชการ และเที่ยวบินส่วนบุคคล ซึ่งได้มีการทำการบินมาอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของประเด็นเรื่องการให้บริการเติมน้ำมันอากาศยานนั้น กรมท่าอากาศยานได้มีการหารือแนวทางร่วมกันกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยได้มีการวางแผนการลงทุนและแนวทางในการให้บริการในอนาคต
ซึ่งกรมท่าอากาศยานขอเรียนให้ทราบว่าจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าการดำเนินงานของกรมท่าอากาศยานมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนในความต้องการพัฒนาท่าอากาศยานให้สามารถรองรับการเดินทางทางอากาศของประชาชนได้อย่างเพียงพอ และครอบคลุมทุกความต้องการ รวมถึงเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมของประชาชนให้ทั่วถึงต่อไป
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมท่าอากาศยาน สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://www.airports.go.th/ และเพจเฟซบุ๊ก กรมท่าอากาศยาน : Department of Airports’ ตามลิงก์นี้ www.facebook.com/departmentofairportsth หรือโทร 02 287 0320