นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า
ข้อเสนอต่อรัฐบาลในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2565 วันนี้เป็นวันเปิดทำการแรกของปี 2565 ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่มีความปรารถนารถดีต่อประเทศชาติ ต่อพี่น้องประชาชน และต่อรัฐบาลซึ่งบริหารราชการแผ่นดินอยู่ในปัจจุบัน ต้องขอออกความเห็นบางประการ เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาในการนำพาชาติบ้านเมืองออกจากวิกฤตดังต่อไปนี้
1. เสนอให้รีบนำประเทศกลับคืนสู่ความเป็นปกติโดยเร็วที่สุด เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสก็เบาบางลงมากแล้ว และคนไทยก็รู้วิธีป้องกันรักษาตัวเองมากขึ้นแล้ว แม้ติดเชื้อก็รักษาหายได้โดยไว จึงควรยกเลิกประกาศฉุกเฉิน คืนอำนาจแก่รัฐมนตรีทั้งหลาย ให้ช่วยกันบริหารบ้านเมืองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
2. เร่งคืนอำนาจเลือกตั้งผู้ว่า กทม. และเมืองพัทยาให้เร็วที่สุด เพราะไม่มีประโยชน์ใดที่จะยื้อยุดเอาไว้อีกแล้ว และส่งผลดีต่อการทำให้เพิ่มสภาพคล่องแก่ชาวกรุงเทพฯ และพัทยารวมกันไม่น้อยกว่า 5 หมื่นล้านบาท
3. ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการส่งออก และธนาคารกรุงไทยออกพันธบัตรระยะ 20 ปี วงเงินรวม 1 ล้านล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.5% เพื่อช่วยเหลือผู้มีเงินฝากไม่ให้ขาดทุนจากอัตราเงินเฟ้อ และนำเงินนี้ไปเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs, การค้าอสังหาริมทรัพย์ และการส่งออก เพื่อให้ภาคธุรกิจเหล่านี้ฟื้นตัวโดยเร็ว โดยคิดดอกเบี้ยเพียง 5% ซึ่งจะช่วยให้เกิดการจ้างงานทั่วประเทศ ถ้าไม่พอก็อาจเพิ่มเป็น 1.5 ล้านล้านบาทได้ตามที่เห็นสมควร
4. เร่งเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน จากหนองคาย-เวียงจันทร์ และเข้าร่วมแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด เพื่อให้รองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมายังประเทศไทยได้ ทั้งทางบก และทางแม่น้ำโขง และเพื่อให้การขนส่งสินค้าภาคเกษตร และอุตสาหกรรมจากไทยไปจีน และทั่วโลกได้โดยสะดวกรวดเร็ว ลดการเสียเปรียบ และความเสียหาย จากนั้นปรับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จากหนองคาย – อุดร – ขอนแก่น – โคราช – สระบุรี – กรุงเทพฯ ให้เปิดเดินรถได้เร็วที่สุด และเร่งเชื่อมจากกรุงเทพฯ ไปยังสุไหงโก-ลก – มาเลเซีย – สิงคโปร์ – บรูไน – อินโดนิเซีย เพื่อป้องกันความเสียเปรียบหากว่า จีน – กัมพูชา – มาเลเซีย จะเชื่อมต่อเส้นทางสายไหมจากสีหนุวิลล์ ไปยังสิงคโปร์ หรือมาเลเซียเสียก่อน
5. เร่งจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนด้านตะวันตก ด้านเหนือ ด้านอีสานเหนือ ด้านอีสานใต้ และ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษโคราช สุราษฎร์ธานี และ 3 จังหวัดรอบทะเลสาบสงขลา เพื่อรับการลงทุน 10 ล้านล้านบาทเข้าประเทศ
และถ้าเป็นไปได้ ก็เริ่มโครงการขุดคลองไทยเชื่อม 2 ฝั่งมหาสมุทร ใช้ศักยภาพที่ล้ำเลิศที่สุดของประเทศ ในการสร้างชาติครั้งใหญ่รับเงินลงทุน 20 ล้านล้านบาทเข้าประเทศ และตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ สองฝั่งคลองไทยนั้น รับเงินลงทุนอีกไม่น้อยกว่า 10 ล้านล้านบาท
6. อนุญาตให้จังหวัดสำคัญสร้างรถไฟฟ้าวงแหวนรอบจังหวัด เพื่อระดมการลงทุนเข้าจังหวัดต่าง ๆ อย่างน้อย 30 จังหวัด เพื่อให้มีเงินลงทุนเข้าประเทศไม่น้อยกว่า 6 ล้านล้านบาท
7. ตั้งผู้แทนการค้าจำนวน 5-10 คน รับเป้าการค้าอย่างน้อยคนละ 3 แสนล้านบาทต่อปี เพื่อเจรจาทางการค้ากับต่างประเทศ เพิ่มยอดการค้า และส่งออกปีละ 15 ล้านล้านบาท
8. เร่งปรองดองภายในพรรคแกนนำของรัฐบาลทำให้การเมืองส่วนพรรคร่วมรัฐบาลมีเอกภาพ และเสถียรภาพ วางความขุ่นแค้นเคืองใจส่วนบุคคลลง ระดมคนดีมีฝีมือเข้ามาช่วยชาติบ้านเมืองในยามวิกฤต และเชิญผู้แทนพรรคการเมืองฝ่ายค้านเข้ามาร่วมแก้ปัญหาวิกฤตของบ้านเมือง และสร้างความปรองดองสามัคคีในหมู่ประชาชนภายในชาติ ตามแนวทางนโยบายฯ 66/2523
9. สร้างความสมดุลในกิจการวิเทศสัมพันธ์ ที่ไม่ตั้งตนเป็นศัตรูกับใคร และสร้างมิตรไมตรี ที่เอื้อผลประโยชน์ทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวระหว่างกันอย่างเต็มอัตรา
10. ปฏิรูปการปกครอง และกฎหมายให้เป็นธรรมรัฐ และนิติรัฐด้วย 10 ประการนี้ บ้านเมืองของเราก็จะฝ่าฟัน และผ่านพ้นวิกฤตครั้งใหญ่ที่สุดในปี 2565 ไปได้ และในวันหนึ่งเมื่อถึงคราววางอำนาจลงก็จะได้รับความยกย่องให้เป็นวีรบุรุษ และวีรชนของชาติ ดีกว่าปล่อยให้วันเวลาผ่านล่วงพ้นไปเปล่าๆ