นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้จัดแถลงข่าวกรณีราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากจัดประชุมร่วมกับ 10 สมาคม ที่เป็นสมาชิกของสหพันธ์ฯ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว โดยได้ขอรัฐบาลให้ปรับลดโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซลลงอีกให้อยู่ราคา 26-27 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 28 บาทต่อลิตร ซึ่งปรากฏว่าสหพันธ์ฯ ได้เปิดโต๊ะการเจรจากับกระทรวงพลังงาน ซึ่งเป็นตัวแทนของภาครัฐมา 2-3 ครั้ง ก็ได้ปฏิเสธว่าไม่สามารถปรับลดลงได้ ทางสหพันธ์ฯ จำเป็นต้องจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์พลังของคนรถบรรทุก (Truck Power) รอบสุดท้าย หรือ ทรัคทาวเวอร์ไฟนอลซีซั่น เพื่อแสดงสัญลักษณ์กดดันรัฐบาลอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้จัดกิจกรรม Truck Power ไปแล้ว 2 ครั้ง ซึ่งกำลังพิจารณารูปแบบเส้นทาง จำนวนรถที่จะเข้าร่วมกิจกรรม
เบื้องต้น นอกจากรถบรรทุกที่เข้าร่วมแล้ว จะมีรถภาคประกอบการขนส่ง เช่น รถภาคการเกษตร พืชไร่ มันสำปะหลัง น้ำตาล อ้อย ข้าวโพด รถที่ใช้ในการกระจายสินค้า หรือชาวบ้านเรียกรถโชห่วย และรถนำเข้าส่งออกที่ใช้ตู้คอนเทเนอร์ในการขนส่งสินค้า มาร่วมด้วย รวมทั้งวันเวลาที่เหมาะสมในการกำหนดกิจกรรมดังกล่าว คาดว่าจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 ซึ่งกิจกรรมยังคงดำเนินการไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทาง และเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เหมือนเดิม
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป จะหยุดเดินรถ 20% หรือประมาณ 80,000 คัน จากจำนวนรถบรรทุกที่เป็นสมาชิกทั้งหมด 400,000-500,000 คันทั่วประเทศ และจะยังไม่ใช้มาตรการหยุดเดินรถเพิ่มเติมอีก 50% ตามที่ได้มีแนวคิดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ไฮซีซั่นในการภาคการขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ดังนั้น หากหยุดเดินรถเพิ่มจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคได้
เบื้องต้น นอกจากรถบรรทุกที่เข้าร่วมแล้ว จะมีรถภาคประกอบการขนส่ง เช่น รถภาคการเกษตร พืชไร่ มันสำปะหลัง น้ำตาล อ้อย ข้าวโพด รถที่ใช้ในการกระจายสินค้า หรือชาวบ้านเรียกรถโชห่วย และรถนำเข้าส่งออกที่ใช้ตู้คอนเทเนอร์ในการขนส่งสินค้า มาร่วมด้วย รวมทั้งวันเวลาที่เหมาะสมในการกำหนดกิจกรรมดังกล่าว คาดว่าจะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 ซึ่งกิจกรรมยังคงดำเนินการไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทาง และเป็นไปตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เหมือนเดิม
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป จะหยุดเดินรถ 20% หรือประมาณ 80,000 คัน จากจำนวนรถบรรทุกที่เป็นสมาชิกทั้งหมด 400,000-500,000 คันทั่วประเทศ และจะยังไม่ใช้มาตรการหยุดเดินรถเพิ่มเติมอีก 50% ตามที่ได้มีแนวคิดไว้ก่อนหน้านี้ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ไฮซีซั่นในการภาคการขนส่ง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ดังนั้น หากหยุดเดินรถเพิ่มจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคได้