วันนี้ (22 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องเอาผิดจริยธรรมร้ายแรง 3 บิ๊กวงการกีฬาไทย ประกอบด้วยพล.อ.วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หลังถูกองค์กรต่อต้านสารกระตุ้นโลก หรือ WADA แบนห้ามจัดการแข่งขันทุกชนิดกีฬาในระดับนานาชาติ และไม่สามารถใช้ธงประจำชาติแข่งขันในรายการที่ IOC และ WADA เป็นผู้ดูแลจัดการแข่งขันได้
สืบเนื่องมาจากเมื่อ ธ.ค.2563 WADA ได้แจ้งเตือนมายังประเทศไทยให้ปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา 2555 ที่มีบางมาตรายังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล มีบทลงโทษนักกีฬา หรือบุคลากรกีฬาที่มีส่วนสนับสนุน ส่งเสริมให้นักกีฬาใช้สารต้องห้ามจนถูกตรวจพบนั้น ยังเบาเกินไปไม่สอดคล้องกับประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลกฉบับล่าสุดปี ค.ศ.2021 รวมทั้งองค์การต่อต้านสารกระตุ้นไทย(DCAT) ควรเป็นองค์กรเอกเทศ ไม่สังกัดหน่วยงานที่เกี่ยวกับกีฬาของประเทศ พร้อมกับขีดเส้นตายให้เวลา 3 เดือน ให้ประเทศไทยปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าว
หลังจากได้รับคำเตือนคีย์แมนกีฬาไทยใช้วิธีเจรจาชี้แจงกับทาง WADA เพราะไทยสุ่มเสี่ยงที่จะโดนแบนในโอลิมปิกเกมส์ 2020 เหมือนประเทศรัสเซีย แต่ท้ายที่สุดไทยเราเอาตัวรอดมาได้ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด ไม่โดนแบนในโอลิมปิกเกมส์ 2020 แต่หลังจากจบ “โตเกียวเกมส์” WADA ก็ลงดาบประกาศโทษแบนประเทศไทยทันที โดยออกประกาศแบนประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการจัดแข่งขันกีฬาในระดับภูมิภาค ทวีป และโลก รวมทั้งใช้ธงชาติไทยในการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันเป็นเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.64 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา มีการจัดการแข่งขันยกน้ำหนักชิงแชมป์โลกที่ประเทศอุซเบกิสถาน นักกีฬายกน้ำหนักไทยสามารถกวาด 5 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน แต่ก็ไม่สามารถเชิญธงชาติไทยขึ้นยอดเสาในขณะรับเหรียญรางวัลได้ ล่าสุดการแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก ประเทศสเปน ปรากฎว่านักกีฬาแบตมินตันไทย ‘บาส-เดชาพล’ และ ‘ปอป้อ-ทรัพย์สิรี’ สามารถคว้าแชมป์โลกแบดมินตันคู่ผสม จนสร้างประวัติศาสตร์เป็นคนไทยคู่แรกที่ได้แชมป์โลก ครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกได้ แต่ไม่สามารถเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาได้ด้วยเช่นกัน เป็นที่อับอายไปทั่วโลก
กรณีที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการละเลยเพิกเฉยของทั้ง 3 บิ๊กวงการกีฬาไทย หลังจากได้รับการเตือนจาก WADA แล้ว กว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้า ครม.ให้รับทราบและสั่งการได้ก็ปาเข้าไปวันที่ 21 ก.ย.64 ต้องใช้เวลาถึงกว่า 10 เดือน เหมือนกับว่าไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับปัญหาแต่อย่างใด สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไม่อาจปล่อยให้เกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติถูกทำลายไปได้ จึงนำความมาร้อง ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดจริยธรรมร้ายแรงทั้ง 3 บิ๊กวงการกีฬาดังกล่าวในวันนี้