พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำฝ่ายความมั่นคงให้ความสำคัญเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยให้คุมเข้มมาตรการชายแดนทั้งการผ่าน เข้า-ออกของบุคคลและสินค้าตามช่องทางผ่านแดนที่กำหนด รวมทั้งเพิ่มความเข้มข้นกวดขันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของแรงงาน สินค้า รวมทั้งอาวุธสงครามและยาเสพติดที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะการสู้รบตามแนวชายแดนที่ส่งผลให้ประชาชนทั้งสองฝั่งได้รับผลกระทบและยังไม่มีแนวโน้มหรือท่าทีเจรจากัน โดยเฉพาะพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงชายแดน ด้านเมียวดี-แม่สอด จ.ตาก ซึ่งมีการอพยพชาวเมียนมาที่หลบหนีภัยจากการสู้รบกว่า 3,000 คน เข้ามาอยู่ในพื้นที่ชายแดนตรงข้าม อ.แม่สอด
พล.อ.คงชีพ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ระหว่างวันที่ 16-21 ธันวาคม ที่ผ่านมา ได้มีชาวเมียนมาหลบหนีภัยจากการสู้รบข้ามมาฝั่งไทยแล้ว 4,216 คน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการฝ่ายความมั่นคง โดยศูนย์บัญชาการชายแดน จ.ตาก ให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน และอำนวยความสะดวกนำผู้หนีภัยจากการสู้รบเข้าพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวฝั่งไทยใน อ.แม่สอด ที่จัดตั้งขึ้น 3 พื้นที่ที่ผ่านมา โดยเน้นให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคและให้สนับสนุนอำนวยความสะดวกเดินทางกลับภูมิลำเนาตามความสมัครใจเมื่อสถานการณ์ปลอดภัย โดยมีบางส่วนเดินทางกลับแล้วรวม 861 คน ยังคงเหลือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบชาวเมียนมาในไทยรวม 3,355 คน โดยแบ่งเป็นในพื้นที่ ต.แม่ตาว 2,075 คนพื้นที่ ต.มหาวัน 1,221 คน และพื้นที่ ต.แม่กุ 59 คน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้เพิ่มการคุมเข้มดูแลการเข้าออกพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวทั้ง 3 พื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยตามมาตรการควบคุมโรคร่วมกัน