พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากกรณีกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุชักชวนผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนในธุรกิจบิตคอยน์ (Bitcoin) โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนโดยทั่วไป โดยผู้เสียหายจะต้องโอนเงินทุนเป็นบิตคอยน์มาให้กับคนร้ายก่อน จากนั้นเมื่อคนร้ายได้เงินก็จะหลบหนีไปพร้อมเงินและไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 14 ล้านบาท
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังการชักชวนลงทุนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะการลงทุนที่มีการอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงผิดปกติ หรืออ้างว่าจะได้ผลกำไรแน่นอน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการฉ้อโกง แต่หากมีความสนใจเรื่องการลงทุน ขอให้ตรวจสอบบุคคลที่มาชักชวน และรูปแบบของการลงทุนว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ และตรวจสอบใบอนุญาตในการประกอบกิจการจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เว็บไซต์ https://www.bot.or.th/App/BOTLicenseCheck/ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตหรือใบขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยได้
หากพบเห็นบุคคลใดมีพฤติการณ์ชักชวนให้ลงทุนในลักษณะที่น่าเชื่อว่าอาจเป็นการฉ้อโกงประชาชน กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังการชักชวนลงทุนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะการลงทุนที่มีการอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงผิดปกติ หรืออ้างว่าจะได้ผลกำไรแน่นอน เพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นการฉ้อโกง แต่หากมีความสนใจเรื่องการลงทุน ขอให้ตรวจสอบบุคคลที่มาชักชวน และรูปแบบของการลงทุนว่ามีความน่าเชื่อถือหรือไม่ และตรวจสอบใบอนุญาตในการประกอบกิจการจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่เว็บไซต์ https://www.bot.or.th/App/BOTLicenseCheck/ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตหรือใบขึ้นทะเบียนให้ประกอบธุรกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยได้
หากพบเห็นบุคคลใดมีพฤติการณ์ชักชวนให้ลงทุนในลักษณะที่น่าเชื่อว่าอาจเป็นการฉ้อโกงประชาชน กรุณาแจ้งเบาะแสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง