นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานการติดตามการกระทำผิดในคดีเกี่ยวกับน้ำมันเถื่อน จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยพฤติกรรมการกระทำผิดจะมี 3 แบบ คือ ลักลอบนำเข้าโดยกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจน้ำมันส่งออก มีการขออนุญาตต่อกรมศุลกากรตามกระบวนการ แต่จะสำแดงเท็จแล้วนำมาวนจำหน่ายในประเทศ เพราะกรณีที่รับซื้อน้ำมันกลั่นเพื่อการส่งออกจะไม่เสียภาษี โดยนำไปส่งออกส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งจะวนกลับมาขายในประเทศ ซึ่งจะมีส่วนต่างคือ น้ำมันเบนซิน 7 บาทและดีเซล 14 บาทต่อ 1 ลิตร ซึ่งเข้าข่ายการฟอกเงิน
รูปแบบที่สอง เป็นการลักลอบนำเข้าโดยรถยนต์กระบะขนลำเลียงน้ำมันจากเรือบรรทุกน้ำมันกลางทะเล ซึ่งจะมีทางอ่าวไทย โดยจะมีเรือเล็กไปรับจากเรือที่จอดกลางอ่าว พบทางนครศรีธรรมราชและสงขลา และการขนส่งจากจุดผ่านแดนทางมาเลเซีย ส่วนรูปแบบที่สาม เป็นการลักลอบนำเข้าโดยใช้เรือบรรทุกน้ำมัน และใช้บรรทุกขึ้นจากท่าเรือ ส่วนมากพบทางภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี และระยอง และทางภาคใต้ตอนบน เช่น ระนองและชุมพร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้ได้สั่งการให้ดีเอสไอเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวน และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง และลดน้อยลงไป แต่ในช่วงที่ผ่านมาน้ำมันมีราคาสูงขึ้น ทำให้ขบวนการเหล่านี้มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งถือเป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และบางกลุ่มยังเป็นช่องทางในการฟอกเงินให้กับกลุ่มค้ายาเสพติด บ่อนกาสิโน และมีพฤติการณ์ทำเป็นขบวนการ ซึ่งควรจะต้องกวาดล้างให้สิ้นซาก