นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2564 เวลา 16.00 น.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 27 ราย (พบในเรือนจำสีแดง 3 ราย และ ในห้องแยกกักโรคผู้ต้องขังรับใหม่ 24 ราย) มีผู้ติดเชื้อที่รักษาหายเพิ่ม จำนวน 12 ราย โดยไม่มีรายงานการเสียชีวิตติดต่อกันเป็นเวลา 17 วัน ทำให้มีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 3,683 ราย (กลุ่มสีเขียว 89% สีเหลือง 10.8% และสีแดง 0.2%) มีผู้ติดเชื้อรักษาหายสะสม 79,928 ราย หรือ 93.1% ของผู้ติดเชื้อสะสม 85,895 ราย เสียชีวิตสะสม 183 ราย คิดเป็น 0.2% ของผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
นายอายุตม์ กล่าวว่า ในวันนี้สถานะเรือนจำยังคงที่ ไม่พบเรือนจำระบาดใหม่ต่อเนื่อง 9 วัน จึงมีเรือนจำสีขาวอยู่ที่ 127 แห่ง และเรือนจำสีแดงอยู่ที่ 15 แห่ง โดยในจำนวนดังกล่าว เป็นเรือนจำที่อยู่ระหว่างควบคุมการระบาด 7 แห่ง (ระบาดใหม่ 5 แห่ง คือ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ เรือนจำอำเภอนาทวี เรือนจำกลางราชบุรี เรือนจำอำเภอปากพนัง และเรือนจำอำเภอฝาง และที่ระบาดซ้ำในแดนบางส่วน 2 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี และเรือนจำกลางเชียงใหม่) ขณะที่มีเรือนจำอยู่ในแผนสิ้นสุดการระบาดของโรค (แผน EXIT) จำนวน 8 แห่ง โดยมีจำนวน 3 แห่งที่จะทยอยพ้นจากการระบาดภายในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ เริ่มจากเรือนจำจังหวัดชุมพรในวันที่ 8 ธันวาคม
ด้านการบริหารจัดการวัคซีนแก่ผู้ต้องขัง ปัจจุบัน กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังไปแล้ว เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 228,727 ราย เป็นวัคซีนกระตุ้นหลังหายจากการติดเชื้อ จำนวน 51,058 ราย เป็นเข็มที่ 2 จำนวน 202,767 ราย เป็นเข็มที่ 3 จำนวน 26,446 ราย โดยมีผู้ต้องขังที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 2 เข็ม หรือครบโดสแล้ว จำนวน 282,938 ราย หรือ 99.77% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด
