ในการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในครั้งนี้ มีราษฎรจำนวนมากมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ภายในบริเวณพื้นที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ และตลอดสองฝั่งถนนที่เสด็จพระราชดำเนินผ่าน โดยราษฎรต่างพร้อมใจกัน โบกธงชาติ โบกธงพระปรมาภิไธย "ว.ป.ร." และธงพระนามาภิไธย "ส.ท." พร้อมเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" อย่างกึกก้องด้วยความจงรักภักดี
พสกนิกรทุกคนต่างปลื้มปีติที่ได้ชมพระบารมี ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้แก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ กองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ร่วมกับโรงพยาบาลและหน่วยสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร ออกให้บริการด้านสาธารณสุขดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ กับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเจลแอลกอฮอล์กับพิมเสนน้ำ และให้ตั้งโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ ถูกสุขอนามัย พระราชทานเลี้ยงแก่ราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ข้าราชการ เอกชน และประชาชนที่เข้าร่วมในพิธี ฯ ได้ร่วมมือช่วยกันปลูกต้นไม้เพิ่มเติมอีกจำนวน 104 ต้น 50 พันธุ์กล้าไม้ ภายในอุทยาน ฯ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมให้อุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ แห่งนี้ เป็นสถานที่ศึกษาเรื่องสิ่งแวดล้อม เสริมสร้างคุณภาพชีวิต พัฒนาร่างกายและจิตใจ เป็นปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งได้เรียนรู้พระราชกรณียกิจและแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ต่อไป
น.ส.กานดา ดนตรี ชาวบางกอกน้อย กรุงเทพฯ นัดรวมกลุ่มกับเพื่อนประมาณ 250 คน อาทิ น.ส.สุนันท์ จิริยะสิน และ น.ส.กอบกุล สิงห์ศักดิ์ มาเฝ้า ฯ รับเสด็จ กล่าวว่า ตัวเองเดินทางมาตรวจเอทีเคตั้งแต่เมื่อวาน ที่บริเวณกรมทางหลวง เป็นครั้งแรกที่ได้รับการตรวจ ไม่เจ็บและรู้สึกว่าไม่วุ่นวายอย่างที่คิด สำหรับวันนี้มีเพื่อนสมาชิกในกลุ่มได้ร่วมปลูกต้นไม้ในบริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ด้วย
"ในหลวงพระราชทานพื้นที่แห่งนี้เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณชน ทำให้ตัวเองรู้สึกปลาบปลื้มปีติมาก เพราะจะได้มีปอดแห่งใหม่ใจกลางกรุง พระองค์ทรงเป็น "ผู้ให้" เฉกเช่นเดียวกับพระราชบิดาที่ทรงงานหนักเพื่อประชาชนของพระองค์มาโดยตลอด ดังนั้นการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็จะได้มีสถานที่ให้ประชาชนได้มากราบสักการะและระลึกถึงพระองค์ท่านได้ตลอดเวลา ส่วนตัวตั้งใจว่า หากอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ฯ สร้างแล้วเสร็จ จะมาเที่ยวแน่นอน" น.ส.กานดากล่าว
ด้านนายศุภศักดิ์ โชคอุปถัมภ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา นักเรียนทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือ ม.ท.ศ. รุ่นที่ 8 กล่าวว่า ตัวเองได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุดในการได้รับพระราชทานทุนการศึกษา จึงแบ่งเบาภาระของครอบครัวที่พ่อแม่มีอาชีพค้าขายได้ โดยในอนาคตตั้งใจจะประกอบอาชีพเป็นครู
"วันนี้มีโอกาสร่วมปลูกต้นไม้ภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติด้วย รู้สึกปลาบปลื้มใจมากที่สนามม้านางเลิ้งเก่าจะกลายเป็นปอดแห่งใหม่สำหรับประชาชนทุกเพศทุกวัย ได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเป็นราชาผู้ทรงธรรม และทรงทำเพื่อประโยชน์สุขแก่อาณาประชาราษฎร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด สำหรับตัวเองได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้บริหารจัดการชีวิต เพราะการได้รับทุนก็ต้องใช้สมเหตุสมผลทุกเม็ดเงิน" นายศุภศักย์ กล่าว